รัฐสภา 22 ต.ค.-“วิสุทธิ์” รอ กมธ. 2 สภา หาทางออกประชามติ ไม่ฟันธงยึดแบบชั้นเดียว หากหาทางออกไม่ได้สุดท้ายต้องพักกฎหมายไว้ 6 เดือน ขณะคดีตากใบ โยนให้พรรคเพื่อไทยอย่างเดียวคงไม่ถูก เหตุผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วม2สภาฯในการพิจารณาพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับที่…พ.ศ…. ว่า เป็นการพิจารณาร่วมกันของทั้ง 2 สภา ถ้าเห็นชอบตามฝ่าย 1 ฝ่ายใดที่เสนอมาก็สามารถ นำขึ้นทูลเกล้าเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป แต่ถ้าสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นชอบกับ สมาชิกวุฒิสภาเรื่องนี้ก็จะต้องพักไว้ 180 วัน เมื่อครบ 180 วันแล้วก็สามารถนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายได้
ส่วนยังยืนยันที่จะใช้การทำประชามติแบบเสียงข้างมากชั้นเดียวหรือไม่นั้น จะ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตนไม่กล้ายืนยันแทนกรรมาธิการ ซึ่งแนวทางของทั้งกรรมาธิการฝั่งสส.และสว.จะเป็นอย่างไรก็ต้องให้เกียรติ แต่คาดว่าข้อสรุปน่าจะดำเนินการได้ไม่ช้าภายในเดือนนี้ ส่วนจะประชุมวันไหนตนไม่สามารถไปกำหนดแทนได้ แต่เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มองว่าการทำประชามติแบบชั้นเดียวไม่ยุ่งยากมากแต่ก็ต้องปล่อยให้กรรมาธิการทั้งสองฝ่ายพิจารณา อาจจะมีข้อเสนอที่ดีออกมาก็ได้ และไม่ขอฟันธงว่าจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้
ส่วนแนวโน้มจะทำในการทำประชามติไม่ทันช่วงต้นปีหน้าหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่าถ้าทันก็ดี เราก็ไม่ต้องเสียงบประมาณอีก 2000-3000 ล้านบาท แต่ถ้าไม่ทัน ต่อไปการทำประชามติก็ต้องใช้งบอีก นี่คือข้อที่กังวล ไม่ได้กังวลเรื่องความคิดต่างกันแต่กังวลในเรื่อง ของการใช้งบประมาณ 2000-3000 ล้านบาทต่อครั้ง เป็นเงินมหาศาล เอาไปทำอ่างเก็บน้ำได้ทั้งจังหวัด
ทั้งนี้หากทาง สว. ยังคงยืนยันที่จะใช้การทำประชามติแบบ 2 ชั้น สุดท้ายจะต้องสุดท้ายจะต้องจบที่ต้องพักกฎหมายไว้ 6 เดือนหรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ ที่บอกไปก็เสียดายงบประมาณ แต่เชื่อว่ากรรมาธิการน่าจะมีการเจรจาให้ได้ทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งตนไม่อยากตัดสินใจแทนกรรมาธิการ
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอให้ใช้สัดส่วนหนึ่งในสาม แทนเสียงข้างมาก ว่า เป็นความคิดของพรรคอื่นเราไม่วิพากษ์วิจารณ์ และขอให้กรรมาธิการไปคุยกันก่อน
ส่วนรัฐบาลได้ส่งสัญญาณเรื่องนี้บ้างหรือไม่หลังจากที่มีการพูดคุย ในการร่วมรับประทานอาหารค่ำเมื่อวานนี้ นายวิสุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะเมื่อวานตนก็ไม่ได้ไปร่วมรับประทานอาหารด้วย และก็ไม่ทราบว่าเขาคุยกันเรื่องอะไรบ้าง
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงคดีตากใบที่รัฐบาลอาจจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการออกพระราชกำหนดไม่ให้คดีหมดอายุความ ว่า
ตนไม่ทราบเรื่องที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทยพูด แต่หลายคนบอกว่าเพื่อไทยปัดความรับผิดชอบ
“ผมต้องบอกว่าวันที่เขา(พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี)มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ตอนนั้นก็ยังไม่ถูกฟ้องร้องคดีใดๆทั้งสิ้นถ้าวันนั้นยังบริสุทธิ์อยู่และศาลยังไม่ได้รับเป็นคดีในขณะนั้นซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม ส่วนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ผมไม่ทราบรายละเอียดไม่กล้าไปฟันธงฉะนั้นเรื่องนี้เกิดมา 20 ปีผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว บางรัฐบาลอยู่เป็น 10 ปี แต่จะมาโยนให้พรรคเพื่อไทยรับอย่างเดียวคงไม่ถูก ตอนนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ว่าตามศาล ว่าตามตำรวจให้ไปดำเนินการอำนวยความยุติธรรม” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย