เริ่มแล้ว! ไทยลีก 2019 มูลค่าลงทุน 16 สโมสรรวมเกือบ 3,000 ล้าน

25 ก.พ. – ประเดิมฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาลใหม่ ทีมบิ๊กเนมไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ ส่วนมูลค่าลงทุน 16 สโมสรรวมเกือบ 3,000 ล้านบาท





ฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก 2019 ประเดิมสนามฤดูกาลใหม่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากหยุดพักยาวเกือบ 5 เดือน แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกทีม “บิ๊กเนม” แชมป์เก่า รองแชมป์เก่า รวมถึงทีมอันดับ 3 เมื่อฤดูกาลที่แล้วต่างไม่สามารถเก็บ 3 แต้มแรกได้ ส่วนมูลค่าการทำทีมแต่ละทีมใครทุ่มทุนมากที่สุดเดียวเราไปติดตามกัน


ก่อนอื่นมารู้จักฟุตบอลไทยลีกปีนี้กันก่อน โดย มี 16 สโมสร ประกอบด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด,การท่าเรือ เอฟซี, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, พีที ประจวบ เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี,นครราชสีมา เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี,สมุทรปราการ ซิตี้,สุโขทัย เอฟซี, ชัยนาท ฮอร์นบิล เอฟซี และ 3 ทีมน้องใหม่ พีทีที ระยอง, ตราด เอฟซี และเชียงใหม่ เอฟซี

โดยทีมที่ใช้งบประมาณทำทีมมากที่สุดปีนี้เป็นทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ใช้ถึง 400 ล้านบาท รองลงมาเป็นทีมการท่าเรือ 350 ล้านบาท, บุรีรัมย์ แชมป์เก่า 300 ล้านบาทในการป้องกันแชมป์, ส่วนทรู แบงค็อก ใช้ 250 ล้านบาท, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ใช้ 120 ล้านบาท ส่วน 100 ล้านบาทมี 6 ทีมได้แก่ สุพรรณบุรี,ชลบุรี, สิงห์ เชียงราย,นครราชสีมา,สมุทรปราการ ซิตี้ และเชียงใหม่ สุโขทัย ใช้ 70 ล้านบาท, ตราด 60 ล้านบาท และ 50 ล้านบาทมี 2 ทีมประกอบด้วย ชัยนาท ฮอร์นบิล และพีทีที ระยอง รวม 16 ทีมเป็นเงินถึง 2,380 ล้านบาท

ขณะที่เกมเปิดฤดูกาลคู่แรกวันศุกร์ที่ผ่านมายิงกันถึง 5 ลูก มีแฮตทริก แรกของไทยลีก โดย ”ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ประเดิมสนามนัดแรก เฉือนชนะ น้องใหม่ “ช้างขาวจ้าวเกาะ” ตราด เอฟซี ไปอย่างสนุก 3-2 โดยเกมนี้ ยานนิค โบลี อดีตดาวยิงของสโมสรเปแอสเช ชาวฝรั่งเศส ของราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทำประตูแรกของไทยลีก 2019 ในนาที 23 ก่อนที่เขาจะมาทำเพิ่มอีก 2 ประตู ในนาที 54 และ 67 เป็นแฮตทริกแรกของไทยลีก ฤดูกาลนี้ ส่วนตราด ได้ประตูจาก ลอนซาน่า ดูมบูย่า นาที 25 และ 45

ขณะที่คู่วันเสาร์ บิ๊กแมตซ์ มี 2 ใบแดง “แชมป์เก่า” ปราสาทสายฟ้า-บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ไปอย่างสนุก 2-2 โดยเกมนี้ชลบุรี ขึ้นนำไปก่อนจากวรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ นาที 57 แต่จากนั้น ชลบุรี เหลือ 10 คนนาที 63 หลัง ณัฐพงศ์ เปพาทย์ โดนใบเหลืองใบที่สองเป็นใบแดง และทำให้บุรีรัมย์ ได้เปรียบตัวผู้เล่นมาทำ 2 ประตูรวดในนาที 65 กับ 66 จากศุภโชค สารชาติ แต่นาที 76 ชลบุรี มาตามตีเสมอจาก เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และท้ายเกมนาที 88 ชลบุรี เหลือผู้เล่น 9 คน หลังลูเคียน อเราโจ โดน 2 เหลืองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

ด้านทีม แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์เก่า บุกไปเสมอกับ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี 1-1 โดยเกมนี้ แบงค็อกส่ง เนลสัน โบนีญา เยือนทีมเก่า นาทีที่ 31 ทริสตอง โด ยิงให้ แบงค็อก ขึ้นนำก่อน 1-0 แต่นาทีที่ 77 สุโขทัย ตามตีเสมอ 1-1 จาก ก้องนทีชัย บุญมา จบเกมเสมอกันไป 1-1 แบ่งทีมละคะแนน

ขณะที่ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านพ่าย “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี 0-1 โดย พีที ประจวบ มาได้ประตูชัย จากจุดโทษของ ไคออน นาที 28 ทำให้ พีที ประจวบ บุกมาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 คว้า 3 แต้มประเดิมสนามนัดแรก

และอีกคู่ “กว่างโซ้ง” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วย เมื่อปีที่แล้ว และเพิ่งอกหักตกรอบเพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ลีก เปิดบ้านเสมอกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี 0-0 แต่เกมนี้ การท่าเรือ เหลือผู้เล่น 9 คน โดยดาวิด โรเชลา กับ โก ซุลกิ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

ส่วนผลคู่อื่น

ชัยนาท ฮอร์นบิล 0-0 สุพรรณบุรี

พีทีที ระยอง 0-1 นครราชสีมา เอฟซี

สมุทรปราการ ซิตี้ 3-2 เชียงใหม่ เอฟซี

รวมสัปดาห์แรกฟุตบอลไทยลีกยิงไป 18 ประตู กับ 4 ใบแดง และทีมใหญ่ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย

สำหรับปีนี้นักเตะต่างชาติที่มาเล่นไทยลีก จำนวน 81 คน โดยมีบราซิลมากที่สุด 23 คน รองลงมาเป็นเกาหลีใต้ 10 คน ฟิลิปปินส์ 9 คน ซึ่งปีนี้โควต้าต่างชาติ จะลงสนามได้ถึง 7 คน แบ่งเป็นต่างชาติทั่วไป 3 คน เอเชีย 1 คน อาเซียน 3 คน และส่งชื่ออาเซียนไม่จำกัด แต่สามารถลงสนามได้แค่ 3 คนแต่ละนัด นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนนักเตะไทยสามารถทำประตูรวมเกิน 10 ประตู ในจำนวน 5 นัดแต่ละทีมจะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท แต่ถ้าหาก 5 นัดยังไม่ทำประตูไม่ถึง จะทบเป็น 1 ล้านบาท และทบไปเรื่อยๆ จนครบ 3 ล้านบาท และมีเงินดาวซัลโวให้คนไทยอีก 100,000 บาทหลังจบฤดูกาล .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง