ตร.บางขุนเทียนยันไม่เคยร้องขอให้พ่อ ด.ญ.ถูกลวนลามเหตุวิวาทในวัดสิงห์ถอนแจ้งความ

กรุงเทพฯ 25 ก.พ.- พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเที่ยน ยันไม่เคยร้องขอหรือโน้มน้าวให้พ่อเด็กหญิงที่ถูกลวนลามระหว่างเกิดเหตุตะลุมบอนในวัดสิงห์ถอนแจ้งความ ด้าน รองโฆษก ตร.เตือนผู้ใดแผยแพร่ข่าวสารอันเป็นเท็จและส่งผลให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายเข้าข่ายผิดกฏหมายตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์


พ.ต.อ.กฤษณะ   พัฒนเจริญ  รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงประเด็นที่มีการวิจารณ์ในโซชียลมิเดีย ถึงการเผยแพร่บทสนทนาในแอพพลิเคชั่นไลน์ของพ่อเด็กหญิงที่ถูกลวนลามในเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกเข้าทำร้ายประชาชนภายในโรงเรียนวัดสิงห์  พร้อมระบุว่าตำรวจ สน.บางขุนเทียน เจ้าของคดีให้ถอนแจ้งความนั้น ขอเรียนว่าประเด็นดังกล่าวพนักงานสอบสวนไม่มีการร้องขอหรือโน้วน้าวใจให้ ผู้เสียหายและบิดาของผู้เสียหายให้ถอนแจ้งความตามที่ปรากฏในโซลเชียลมิเดียแต่ประการใด ซึ่งหากผู้ใดมีเบาะแสหรือมีข้อมูลในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งมาได้ยัง พ.ต.อ.ลือศักดิ์  ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน โทรศัพท์ 099-1419959 และ 02-415-0671 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนผู้ที่นำข้อความอันเป็นเท็จเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์หรือโซลเชียลมิเดีย อันทำให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับความเสียหาย หรือ สร้างความเกลียดชัง โดยการกระทำของผู้นำเข้าและผู้แชร์ข้อมูลดังกล่าว จะเข้าข่ายความผิดฐาน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตาม ป.อาญา มาตรา 328 มีโทษ จำคุก 2ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้ง 24 คน ตามหมายจับศาลฯ ในความผิดฐาน “ร่วมกันบุรก โดยใช้กำลังประทุษร้าย”  ไว้แล้ว สำหรับผู้ที่ก่อเหตุลวนลาม นักเรียนผู้เสียหายนั้น เป็น 1 ในผู้ต้องหา 24 คน ที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวนปากผู้เสียหาย ต่อหน้าสหวิชาชีพ , อัยการ และ พยานที่เห็นเหตุการณ์ โดยพนักงานสอบสวนยังคงต้องรอผลการตรวจชันสูตรบาดแผล ร่องรอยการถูกลวนลามจากแพทย์ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวในข้อหา กระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ  ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

รอง โฆษก ตร. ยืนยันอีกว่า   เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายมาตั้งแต่ต้นโดยตลอด  โดยจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้งหมดทุกรายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ผู้ที่ก่อเหตุแม้แต่คนเดียวลอยนวล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ที่ได้รับความเสียหายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน   

อย่างไรก็ตามขอเตือชาวโซลเชียลมิเดีย  ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ   ก่อนที่จะทำการวิพากษ์ วิจารณ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง นั้น อาจจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย  พร้อมทั้งส่งผลกระทบต่อตัวผู้ที่โพสหรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ  ต้องมีการวิเคราะห์และตรวจทานให้ดีเสียก่อน  ควรใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ   และยังเป็นการทำลายชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ขององค์กรและเจ้าหน้าที่  ที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติงานมาโดยตลอด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง