ลำปาง 21 ก.พ.-เหตุแผ่นดินไหวใน จ.ลำปาง ขนาด 4.9 ที่เกิดขึ้นช่วงเย็นวานนี้ สร้างความแตกตื่นตกใจให้ประชาชน สำนักข่าวไทย มีภาพเหตุการณ์บางส่วนมาให้ชมอีกครั้ง ขณะที่นักวิจัยแผ่นดินไหว เตือนถือว่าเริ่มเข้าสู่อันตราย รัฐต้องสร้างความตระหนักให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ เสริมความแข็งแรงอาคารบ้านเรือน
นี่เป็นภาพวงจรปิดของอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง ขณะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.9 ช่วงประมาณ 16.05 น. วานนี้ ซึ่งยังเป็นช่วงเวลาทำการ ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้มาติดต่องานงานต่างวิ่งหนีออกจากอาคารเพื่อมาอยู่ในที่โล่ง ส่วนอีกจุดเป็นวงจรปิดของบ้านเรือนประชาชน จะสังเกตเห็นได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น ครอบครัวนี้ก็รีบอุ้มลูกวิ่งลงบันไดออกจากบ้าน
หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทุกภาคส่วนยังเฝ้าระวัง เนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามอีก 20 ครั้ง เทศบาลตำบลวังเหนือส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสอนวิธีป้องกันตัว หากเกิดแผ่นดินไหวให้เด็กๆ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลวังเหนือ หลังวานนี้ช่วงเที่ยงเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก ขณะที่เด็กๆ กำลังนอนหลับ ครูพี่เลี้ยงต้องปลุกและวิ่งหลบใต้โต๊ะในตู้เก็บของกันจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่บอกว่า เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคย ไม่ตื่นเต้น รู้จักหาที่ปลอดภัยหลบซ่อนตัว อย่างหลบใต้โต๊ะหรือในตู้เก็บของ และหมอบตัวลงต่ำแนบกับพื้นให้มากที่สุด จนกว่าเหตุการณ์จะสงบ
เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ยังสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชน และวัดพระเกิด พระอธิการมงคล มังคะโล เจ้าอาวาส พร้อมผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน พาผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยสำรวจความเสียหายขององค์พระธาตุอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี พบว่าปลายยอดฉัตรของพระธาตุ ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร เอียงคดพังเสียหาย ส่วนภายในพระวิหารวัด ภาพพุทธประวัติที่ติดไว้บริเวณผนังหล่นลงมา 1 ภาพ ส่วนเพดานมีรอยร้าว 2 แห่ง จังหวัดเตรียมรายงานกรมศิลปากร เพื่อให้เข้ามาสำรวจบูรณะซ่อมแซมต่อไป ซึ่งขณะเกิดแผ่นดินไหว ผู้ใหญ่บ้านแม่เลียบบันทึกภาพขณะองค์พระธาตุปลายยอดเอนไปมาไว้ได้
ขณะที่นักวิจัยแผ่นดินไหว สำนักงานกองทุนวิจัยแห่งชาติ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบว่าบ้านเรือนประชาชนใน ต.ทุ่งฮั้ว วังแก้ว วังซ้าย และวังเหนือ ศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย หัวหน้าชุดโครงการลดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศไทย กล่าวว่า แผ่นดินไหวขนาด 4.9 ถือว่าเริ่มเข้าสู่อันตราย เพราะใกล้เคียงกับขนาด 5.0 ที่ถือว่าอันตราย และขนาด 6 ขึ้นไปถือว่าอันตรายมาก อย่างไรก็ตาม ภาคเหนือยังมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้ทุกพื้นที่ ภาครัฐต้องสร้างความตระหนักให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ นอกจากนี้ ต้องเสริมความแข็งแรงอาคารบ้านเรือน ด้วยการเสริมก้านเหล็กพิเศษหรือพอกเสาให้ใหญ่ขึ้น ขณะนี้ทีมวิจัยทดลองเสริมกำลังให้อาคารเรียนแล้ว 4 หลัง และจะดำเนินการเพิ่มอีก 4 หลัง โดยอาคารที่น่าห่วงที่สุดคือโรงพยาบาลและโรงเรียน โดยเฉพาะอาคารที่ชั้นล่างเปิดโล่งทำกิจกรรม
ด้านนายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุจะยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาประมาณ 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะไม่มีผลกระทบอะไรมาก อย่างไรก็ตาม จะยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมยืนยันว่าการเกิดแผ่นดินไหวจำนวนหลายหลายครั้งแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติ แต่เพราะปัจจุบันเครื่องไม้ครื่องมือในการตรวจติดตามค่อนข้างดีถึงดีมาก ทำให้สามารถตรวจจับแผนดินไหวระดับเล็กๆ ได้ละเอียดขึ้น.-สำนักข่าวไทย