นำ 14 สำนวนเพิ่มคดี “แอม ไซยาไนด์” ส่งฟ้องอัยการ

กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – ตร.กองปราบฯ นำ 14 สำนวนเพิ่มคดี “แอม ไซยาไนด์” ส่งฟ้องอัยการ มั่นใจเอาผิดเหมือน “ก้อย” ได้


พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม นำทีมคณะพนักงานสอบสวนคดี นำสำนวนคดีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “แอม ไซยาไนด์” ผู้ต้องหาในคดีวางยาผู้อื่น อีก 14 คดี จำนวนหน้าสำนวนกว่า 3 หมื่นแผ่น ส่งให้พนักงานอัยการกองคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง มีผู้เสียชีวิต 13 คน รอดชีวิต 1 คน ช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2558 ศพแรกพื้นที่ สน.ทองหล่อ จนถึงปี 2566 ศพสุดท้าย 12 มีนาคม 2566 นายจามร หรือ แด้ ที่ จ.อุดรธานี

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า วันนี้มั่นใจในพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมา มีมติเห็นควรสั่งฟ้อง “แอม ไซยาไนด์” ที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมเลือดเย็น ฆ่าผู้เสียชีวิตหลายราย และพยายามฆ่าผู้เสียหายอีก 1 ราย ที่ญาติช่วยเหลือไว้ได้ทัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวพนักงานสอบสวนได้นำคำพิพากษาคดีของนางสาวก้อย มาประมวลถึงเหตุการณ์ มีแผนประทุษกรรมคล้ายกันที่เจตนาต้องการฆ่าคนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพฤติกรรมลงมือเพียงคนเดียว ที่มีการวางแผนอย่างแยบยลในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีการฆ่าต่อเนื่อง ในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 7 จำนวน 11 คดี, ภาค 4 จำนวน 2 คดี และนครบาล 1 คดี รวมผู้เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 คน ตั้งแต่ปี 2558 -2566 นานกว่า 8 ปี พร้อมย้ำแม้จะไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นว่า แอม วางไซยาไนด์กับเหยื่อ แต่มั่นใจพยานหลักฐานโดยเฉพาะหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหลอกลวงได้ จะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ อยู่ที่ดุลพินิจของศาลเป็นผู้พิจารณา


สำหรับการอุทธรณ์เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ จนถึงชั้นฎีกา ซึ่งชุดทำคดีได้ปรึกษากับอัยการที่เป็นทนายด้วย จึงเพิ่มความมั่นใจได้ เพราะคดีดังกล่าวในส่วนของญาติผู้เสียชีวิตรอคอยความเป็นธรรม เนื่องจากต้องสูญเสียบุคคลที่รักไปอย่างไม่รู้เหตุการณ์

สำหรับทนายพัช ที่ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่ร่วมกับแอม ไซยาไนด์ นำกระเป๋าทรัพย์สินของกลางไปซ่อนเร้นและศาลมีคำพิพากษาไปแล้วนั้น จากพยานหลักฐานพบว่า ทนายพัชมีส่วนรู้เห็นในการช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิด รวมทั้งอดีตสามีที่เป็นตำรวจที่ถูกคำพิพากษาเช่นกัน ตอนที่ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สอบวินัยให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนปัจจุบันขอตรวจสอบรายละเอียดสถานะใด ย้ำแม้มีการดำเนินคดีทางวินัยแล้วทางคดีอาญา หากศาลตัดสินก็จะมีการลงโทษแน่นอน

ด้าน พ.ต.อ.เอนก ทีมคณะพนักงานสอบสวนคดี เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่มีการฆ่าต่อเนื่องนานหลายปี น่าจะฆาตกรรมต่อเนื่องมากที่สุดในโลก ทั้งนี้จะนำคำพิพากษาในคดีก้อย ที่ศาลสั่งประหารชีวิต มาประกอบเพิ่มในสำนวนคดีเหล่านี้ด้วย ส่วนแผนประทุษกรรมของก้อย มักอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อเข้าหาเหยื่อและตีสนิท โดยมีความใจเย็นมากหากลงมือไม่สำเร็จ ก็จะหาวันเวลาที่เหมาะจึงลงมือฆ่า จึงทำให้เหยื่อไม่รู้ตัว


ส่วนทนายพัช ย้ำมีบทบาทยุยงส่งเสริม ล้ำเส้น แนะนำผู้ต้องหาในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ให้เอากระเป๋าของกลางไปซ่อน มีหลักฐานชัดเจน ไม่มีการยัดข้อหาหมั่นไส้แน่นนอน

จากนั้นนายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา กล่าวหลังได้รับสำนวนจากตำรวจ 14 สำนวน ว่า จะมอบหมายให้อัยการพิจารณาสำนวนและดำเนินการในขั้นตอนต่อไป เมื่อสำนวนมีจำนวนมากจะต้องมีการพิจารณาที่จะจ่ายสำนวนให้แก่พนักงานอัยการในการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับผลคำพิพากษาในคดีแรกจะต้องดูเป็นรายคดีไป ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีผลต่อคดีอื่นหรือไม่อย่างไร ต้องพิจารณาเป็นรายคดี. -416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]