กัวลาลัมเปอร์ 12 ก.พ.- ตำรวจและกลุ่มสิ่งแวดล้อมมาเลเซียแจ้งว่า เจ้าหน้าที่บุกโรงงานและโกดัง ยึดได้ตัวนิ่มและเกล็ดตัวนิ่มมากเป็นประวัติการณ์ถึง 30 ตัน มูลค่าราว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 62.7 ล้านบาท)
เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าในรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียวบุกตรวจโรงงานหนึ่งแห่งและโกดังอีกหนึ่งแห่งเมื่อวันพฤหัสบดีตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส พบตัวนิ่มแช่แข็งบรรจุกล่อง 1,800 กล่องอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็นสามตู้ ตัวนิ่มแช่แข็งอีก 572 ตัวในตู้เย็น 6 ตู้ ตัวนิ่มมีชีวิตถูกขังอยู่ในกรง 61 ตัว และเกล็ดตัวนิ่มหนักรวม 361 กิโลกรัม จับกุมชายวัย 35 ปีต้องสงสัยเป็นคนดูแลโรงงานที่เป็นเครือข่ายแก๊งลอบค้าสัตว์ป่า ตำรวจสันนิษฐานว่าโรงงานแห่งนี้ลอบค้าตัวนิ่มมาไม่ต่ำกว่า 7 ปีแล้ว โดยซื้อจากผู้ลอบจับเพื่อขายภายในประเทศ
แทรฟฟิก (Traffic) กลุ่มติดตามการลอบค้าสัตว์ป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบุว่า เป็นการยึดได้ตัวนิ่มและเกล็ดตัวนิ่มมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในมาเลเซีย สิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มีจำนวนไม่พอให้ลอบจับเป็นล่ำเป็นสันเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน การจับกุมล่าสุดนี้ตอกย้ำว่า รัฐซาบาห์เป็นแหล่งลอบค้าสัตว์ป่าแหล่งใหญ่ เพราะนับตั้งแต่ปี 2560 จนถึงขณะนี้มีลอบค้าตัวนิ่มแล้วกว่า 40 ตัน.- สำนักข่าวไทย