ปทุมวัน 23 ม.ค.-ผอ.รร.สาธิตจุฬาฯ เผยเหตุสั่งปิดโรงเรียน 3 วัน พบเด็กเป็นไข้หวัดใหญ่กว่า 135 คน เชื่อสาเหตุส่วนหนึ่งจากมลพิษทางอากาศ พร้อมติดตั้งเครื่องวัดฝั่นในโรงงเรียน 4 เครื่อง ด้านผู้ปกครองไม่กังวล หาก โรงเรียนมีมาตรการที่ดีก็ไม่จำเป็นต้องประกาศหยุดเรียน ขณะที่เลขากพฐ. ย้ำสถานศึกษาในสังกัด ดูเเลเด็กเป็นพิเศษ ประสานเเพทย์ใกล้ชิด ส่วนสั่งปิด หรืองดทำกิจกรรม เป็นอำนาจ ผอ.โรงเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังมีการประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากพบนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล1-ป.6 เป็นไข้หวัดใหญ่ทั้ง 4 สายพันธุ์จำนวนมาก ยังคงมีครูเเละเจ้าหน้าที่เดินทางมาทำงานตามปกติ ขณะที่เริ่มมีการทำความสะอาดห้องเรียนเเละอุปกรณ์การเรียน ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเขต 5 จะเดินทางมาดำเนินการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ
นายทินกร บัวพูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม กล่าวว่า สาเหตุที่ให้มีการหยุดการเรียนการสอนคือเนื่องจาก พบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ โดยวันจันทร์ตรวจพบนักเรียนเป็นไข้หวัด 88 คน เเละวันอังคารกลับพบพุ่งสูงขึ้นเกือบเท่าตัวคือ 135 คนหรือเกือบร้อยละ 10 ของนักเรียนทั้งหมดที่มีกว่า 1,500 คน ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะมาจากสาเหตุเรื่องของมลพิษทางอากาศเป็นตัวกระตุ้น เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์ฝุ่นในหลายพื้นที่อยู่ในระดับวิกฤต โรงเรียนจึงให้นักเรียนสวมใส่หน้ากาก เเละงดกิจกรรมกลางเเจ้งทุกชนิด ให้เรียนเเละทำกิจกรรมในห้องเรียนเท่านั้น จึงทำให้การหายใจไม่ค่อยสะดวกประกอบกับอยู่ในพื้นที่จำกัด จึงทำให้มีการป่วยเเละเเพร่กระจายของโรคได้ง่าย โดยในวันจันทร์ที่ 28 มกราคมนี้โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติ เเละให้เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขมาวัดไข้เเละฉัควัคซีนป้องกันให้กับเด็ก
ส่วนมาตรการในการป้องกันฝุ่นละอองPM2.5 ของโรงเรียน จะมีการนำเครื่องวัดระดับปริมาณฝุ่นละอองในอากาศมาติดตั้งที่โรงเรียน จำนวน 4 เครื่องเพื่อรายงานค่าฝุ่นละออง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการหยุดการเรียนการสอน หรือประเมินการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งหากมีค่าของฝุ่นอยู่ในระดับน้อย ก็อาจให้นักเรียนออกมาทำกิจกรรมข้างนอกโดยสวมใส่หน้ากาก ,มีการเเจกหน้ากากให้เด็กเเละผู้ปกครองจำนวน 2,600 ชิ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเมืองโคเกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ทำโครงการโรงเรียนพี่น้องกับสาธิตจุฬาฯ ส่งมาให้จากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการสอดเเทรกความรู้เรื่องการดูเเลตัวเองให้กับนักเรียนในชั่วโมงการเรียนการสอนเเละบอร์ดนิทรรศการ
ส่วนการหยุดเรียนจะไม่กระทบการเรียนการสอนอย่างแน่นอน ผู้ปกครองไม่ต้องกังวล เนื่องจากโรงเรียนได้ทำเนื้อหาทบทวนบทเรียนที่นักเรียนสามารถศึกษาด้วยตนเองได้จากที่บ้าน ขณะเดียวกันแม้ที่ผ่านมาผู้ปกครองกังวลเรื่องสถานการณ์ฝุ่น เเต่ก็ไม่ได้เรียกร้องให้หยุดเรียน เนื่องจากเชื่อให้มาตรการของโรงเรียนเเละติดตามข่าวสารเเละเเลกเปลี่ยนข้อมูลพร้อมเฝ้าระวังไปพร้อมกันอย่างต่อเนื่อง
ด้านผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ ให้ข้อมูลว่า ไม่กังวลเรื่องฝุ่น เพราะติดตามมาตรการการดูเเลเด็กของโรงเรียน มีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา ซึ่งหากโรงเรียนมีมาตรการดีก็ไม่จำเป็นต้องหยุดเรียน อีกทั้งช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ใกล้สอบด้วย
ขณะที่ในส่วนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.)ให้สัมภาษณ์ว่า สพฐ.ไม่ได้มีประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน เเต่ที่ผ่านมาเน้นย้ำให้สถานศึกษาติดตามสถานการณ์ข่าวสารใกล้ชิด และดูว่าที่ตั้งของโรงเรียนจุดที่เกิดวิกฤตหรือไม่ รวมถึงต้องให้ความรู้แก่นักเรียนในการสังเกตตัวเองหากกรณีเกิดอาการแพ้จากฝุ่นเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ จะได้แจ้งเพิ่มเติมขอให้ครูประจำชั้น เอาใจใส่ ติดตามดูแลเด็กเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวและมีการติดต่อประสานกับแพทย์ โรงพยาบาลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
ส่วนเรื่องการประกาศให้ลดหรืองดกิจกรรมกลางแจ้งนั้น หากโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน ผู้อำนวยการสถานศึกษา ซึ่งอยู่หน้างานสามารถพิจารณาสั่งงดกิจกรรม ลดกิจกรรม หรือเลือกสถานที่จัดกิจกรรมที่เหมาะสมได้ทันที .-สำนักข่าวไทย