แนวโน้มราคาขายปลีกของไทยขยับขึ้น

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – แนวโน้มราคาขายปลีกในไทยขยับขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นแรง


บมจ.ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้ (21-25 ม.ค.) จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 50 – 55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 60 – 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล 

สำหรับราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์ที่ผ่านมา (14-18 ม.ค.) ปรับเพิ่มขึ้น 2.21 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 53.80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 2.22 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 62.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 59.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังได้รับแรงหนุนจากตลาดที่มีแนวโน้มตึงตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มผู้ผลิตโอเปกในเดือนธันวาคม 2561 ปรับลดลงกว่า 750,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนพฤศจิกายน 2561 ประกอบกับ เศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันของจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลส่งสัญญาณที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วนี้ 


อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตในสหรัฐที่ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงสถานการณ์ในสหราชอาณาจักรยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังการเจรจาข้อตกลง BREXIT ยังคงไร้ข้อสรุป 

ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ (21 – 25 ม.ค.) คาคว่าน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่คาดจะตึงตัวอย่างต่อเนื่อง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มจะปรับลดลงจากเดือนธันวาคม 2561 ตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตที่เริ่มขึ้นเดือนนี้ ประกอบกับ ปริมาณการผลิตจากแคนาดาที่คาดจะปรับลดลงประมาณ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังรัฐบาลประกาศให้ผู้ผลิตลดปริมาณการผลิตปี 2562 เพื่อลดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดภายในประเทศ นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น หลังรัฐบาลส่งสัญญาณเตรียมที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วนี้ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขณะที่สหราชอาณาจักรประสบกับสถานการณ์ความไม่แน่นอน หลังข้อตกลงถอนตัวออกจากยูโซน (BREXIT) ของนายกรัฐมนตรีเทเรซาเมย์ถูกปฏิเสธ 

นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตจากกลุ่มผู้ผลิตโอเปกมีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังซาอุดิอาราเบียประกาศว่าจะปรับลดปริมาณการผลิตไปสู่ระดับ 10.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนมกราคม 2562 ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลดมากกว่าที่ตกลงไว้ประมาณ 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตจากประเทศลิเบียมีแนวโน้มปรับลดลงจากเดือนที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องด้วยแหล่งน้ำมันดิบ El Sharara ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยังคงถูกปิดชั่วคราว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่