กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – ธนชาตไม่ตอบชัดควบรวมทหารไทยหรือไม่ แต่สั่งศึกษาผลดี – ผลเสีย ยังตั้งเป้าปีนี้สินเชื่อโตอีกร้อยละ 7 หลังปีก่อนโตดี
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TBANK เปิดเผยถึงกรณีการควบรวมกิจการธนาคารขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ ธนาคารทหารไทย (TMB) กับ ธนาคารธนชาต (TBANK) ว่า กำลังให้ทีมงานศึกษาและวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสีย หากมีการควบรวมจริง แต่ยืนยันขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะควบรวมหรือไม่ และไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาถึงการศึกษาผลสรุปดังกล่าว โดยขณะนี้ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อน
สำหรับปี 2562 ธนชาตตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่โตร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือประมาณ 56,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ตั้งเป้าระดับต่ำกว่าร้อยละ 2.3 ส่วนกำไรคาดจะโตเกือบร้อยละ 10 โดยจะดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์การปรับผังผู้บริหารและตั้งหน่วยงานใหม่ เพื่อศึกษาพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปและวางกลยุทธ์ด้านดิจิทัลให้เหมาะสม พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล ลดกระบวนการทำงานต่าง ๆ เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ควบคู่กับการเพิ่มความรู้ทักษะพนักงาน เพื่อสามารถเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแก่ลูกค้า
ด้านผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยปีก่อนเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 14,703 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพิ่มขึ้น 893 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.47 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเป็นการเติบโตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 10 โดยเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.53 จากสินเชื่อเติบโตขึ้นร้อยละ 5.88 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เติบโตสูงถึงร้อยละ 13.44 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 2.95 จากกำไรจากการขายเงินลงทุนลดลง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.43 และมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดลง โดยสิ้นปี 2561 ตัวเลขหนี้เสีย (NPL Ratio) ของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 2.30 คงที่จากปีก่อน และอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมาก.-สำนักข่าวไทย