ระนอง 13 ก.ย. – รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุ
จากกรณี 2 คนร้าย เข้าชิงทรัพย์ร้านทองในห้างดังกลางเมืองระนอง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา และได้สร้อยคอทองคำไปไม่ต่ำกว่า 68 บาท
ล่าสุดเช้าวันนี้ พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากการวางแผนแกะรอย และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนหาข้อมูลจากทุกฝ่ายจนพบร่องรอย และที่หลบซ่อน จึงให้เจ้าหน้าที่ซุ่มเฝ้าเอาไว้ตลอดทั้งคืน จนกระทั่งเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าจับกุมนายวีระวุธ อายุ 41 ปี ที่บ้านพักหมู่ที่ 4 ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นสวนปาล์ม โดยนายวีระวุธให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ไปทำการขุดนำสร้อยคอทองคำที่ใส่กระปุกพลาสติกและฝังไว้บริเวณหลังบ้านส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งได้ซุกเอาไว้ในกระเป๋าผ้าของมารดา
จากการสอบปากคำนายวีระวุธ ยอมรับสารภาพว่า ตั้งแต่ช่วงโควิดมาชีวิตตกต่ำมาก ไม่มีเงินรายได้มากพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัว ถูกภรรยาทิ้งเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว เดิมตนเคยรับเหมาก่อสร้าง มีรายได้เดือนละหลายหมื่นจนถึงหลักแสน แต่ปัจจุบันแทบจะไม่มีรายได้เลย จึงคิดว่าทำอย่างไรถึงจะดึงตัวเองขึ้นมาได้ จึงโทรชวนนางสาวรุ่ง หลานสาว อายุ 16 ปี ชาวตำบลกะเปอร์ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ให้มาร่วมก่อเหตุ โดยตอนที่ชวนนั้น นางสาวรุ่งอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยตนเองให้นางสาวรุ่งช่วยซื้อปืนพลาสติกมาให้ด้วย
นายวีระวุธบอกอีกว่า ตนเองพร้อมกับนางสาวรุ่งได้เดินทางไปที่ห้างดังกล่าวและสังเกตดูร้านทอง ตั้งแต่วันอังคารที่ 10 กันยายน และตั้งใจจะลงมือในวันนั้น แต่นางสาวรุ่งได้ขัดไว้ก่อนโดยบอกว่าคนเยอะเกินไป จึงเลิกล้มความตั้งใจ และมาลงมือในวันรุ่งขึ้น คือวันพุธที่ 11 กันยายน ตนขี่รถจักรยานยนต์ ที่ซื้อมาจากร้านขายของเก่าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ราคา 1,500 บาท แล้วนำมาซ่อม ซึ่งระหว่างทางได้แวะปะยางที่บ้านทุ่งหงาว ตำบลงาว อำเภอเมืองระนองก่อน ก่อนจะสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงอีกตัวหนึ่งทับของเดิมและมุ่งหน้าไปที่ห้างดัง
นายวีระวุธ เล่าต่อว่า ลงมือโดยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือกลัวอะไรเลย เพราะคิดอยู่อย่างเดียวว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าทำสำเร็จก็สามารถดึงชีวิตให้ขึ้นมาได้แต่ถ้าพลาดก็คือติดคุกเท่านั้น และอีกอย่างคือร้านทองในห้างไม่มีลูกกรงเหล็ก และไม่มีเจ้าของร้าน ตนจึงไม่กลัว เพราะรู้อยู่แล้วว่าพนักงานไม่มีปืน
นายวีระวุธ บอกอีกว่า หลังจากที่ตนและนางสาวรุ่งลงมือชิงทองมาแล้ว ก็วิ่งกลับไปที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ของห้างแล้วขับย้อนทางเข้าออกไปบนถนนเพชรเกษม ย้อนศรบนฟุตบาทมุ่งหน้าไปบ้านบางกลาง และระหว่างทางรถมอเตอร์ไซค์ล้มไป 1 ครั้ง ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าและหัวไหล่ ตอนนั้นมั่นใจว่าได้ทำสร้อยคอทองคำหล่นระหว่างทาง แต่ไม่รู้ว่ากี่เส้น
หลังจากนั้นตนเองพร้อมนางสาวรุ่งได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าไปถึงบ้านทุ่งยอก่อนถึงภูเขาหญ้า รถยางแบนอีกรอบหนึ่ง จึงตัดสินใจขับบดยางไป แล้วเลี้ยวเข้าไปในถนนซอยภูเขาหญ้า ทิ้งรถไว้ในคูน้ำข้างถนน แล้วเดินเข้าไปในป่าห่างจากริมถนนราว 30 เมตร ถอดเสื้อกางเกงชั้นนอกและถุงมือทิ้งไว้ พร้อมกับเอาทองออกมาเทและนับจำนวนได้ราว 50 กว่าบาท หลังจากนั้นจึงเดินลัดแนวป่าออกไปริมถนนเพชรเกษม ขึ้นรถสองแถวกลับไปที่บ้านพักที่ตำบลราชกรูด แล้วจึงแบ่งสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 5-6 เส้น ให้กับนางสาวรุ่งไปขาย โดยนางสาวรุ่งได้เดินทางไปที่มหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร
หลังจากทราบข้อมูลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานข้อมูลและเช็กโทรศัพท์มือถือของนางสาวรุ่ง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าควบคุมตัวนางสาวรุ่งได้สำเร็จ และจะนำตัวมาทำแผนและดำเนินคดีที่จังหวัดระนองต่อไป.-สำนักข่าวไทย