กทม. 9 ก.ย.-เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต
เจ้าหน้าที่ อย. และยา ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจ สน.ทุ่งครุ บุกทลาย “โรงงานผลิตยาเถื่อน” แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ย่านทุ่งครุ โดยจุดเริ่มต้นของการตรวจค้นในครั้งนี้ มาจากการตรวจพบว่า มีเลขล็อตผลิตยาแก้ปวดยี่ห้อ Tramadol ของโรงงานแห่งนี้ ที่แจ้งว่าส่งออกไปต่างประเทศ แต่กลับไปพบเลขล็อตยาเดียวกันอยู่ที่ร้านขายยาแห่งหนึ่งในประเทศไทย จึงทำการขยายผล ตรวจสอบ และทำการเข้าตรวจค้น
ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้น พบยาเขียวเหลืองจำนวนมาก รวมทั้งยาชนิดต่าง ๆ บางตัวเป็นยาเถื่อนที่ทำปลอมขึ้นมา รวมถึงวาสลีนทาปาก ซึ่งที่น่าตกใจคือ พบว่าในหม้อที่ทำวาสลีนทาปาก มีสาดจิ้งจกตายอยู่คาหมอต้ม และที่แห่งนี้เป็นต้นตอของยาทรามาดอล หรือ “ยาเขียวเหลือง” นอกระบบ (รายงานเท็จงต่อ อย.) กว่า 2.7ล้านเม็ด เป็นต้นตอที่ทะลักออกสู่ท้องตลาดกว่า 84 ล้านเม็ดซึ่งสามารถนำไปผสมเป็นยาเสพติดสี่คูณร้อยได้
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าโรงงานแห่งนี้ มี 2 โกดัง โดยโกดังแรก เป็นโกดังสำหรับเก็บสินค้าใส่กล่อง บรรจุภัณฑ์ เพื่อส่งขาย ส่วนอีกโกดัง ห่างกันประมาณ 10 เมตร ภายในใช้สำหรับผลิตยาปลอม มีถังแก๊ส เตา อุปกรณ์การผลิตยา รวมถึง ตราชั่งอยู่ภายใน ด้านในเต็มไปด้วยยาที่ปลอมขึ้นมา และปลอมสลากการค้า เช่น วาสลีนทาปากของยี่ห้อหนึ่ง ที่บรรจุใส่กระปุกใสปิดด้วยฝาสีเหลือง
นอกจากนี้ยังมียาฟอร์มาลดีไฮด์ปลอม ซึ่งคนงานอ้างว่าใช้สำหรับล้างผัก ส่วนด้านในถังที่น้ำเงิน เมื่อเปิดออกมาก็เป็นน้ำยาบรรเทาอาการปวดท้อง ยี่ห้อดัง (มหาหิงคุ์)
น.ส.ตรีชฏา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า โรงงานแห่งนี้มีการปลอมแปลงเอกสารผลิตยาจากเลข อย.อยู่แล้ว
ส่วนยาวันนี้ที่ตรวจพบ มียาหลากหลายประเภท ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นยาที่ผลิตขึ้นมาเอง ยาที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย มีการปลอมแปลงฉลากบรรจุภัณฑ์รวมถึงเลขทะเบียน อย.อีกด้วย ส่วนเรื่องป้ายที่มีชื่อของเภสัชกรหญิงติดอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโกดัง จะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ และมีการแอบอ้างหรือไม่
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า โรงงานแห่งนี้เปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งจะส่งขายให้ร้านขายยาทั่วประเทศ และชาวบ้านในละแวกก็ไม่ทราบว่าโรงงานแห่งนี้เปิดเป็นสถานที่ผลิตยา เนื่องจากมีการปิดรั้วหน้าบ้านตลอดเวลา นอกจากนี้ขณะเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังพบเจ้าของโรงงานและและลูกจ้างกำลังปฏิบัติงานกันอยู่
ขณะที่นายสมศักดิ์ เจ้าของโรงงาน ยืนยันว่า ประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมายมานานกว่า 10 ปี และมีเอกสารยืนยันชัดเจน /ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการผลิตยาในสถานที่ที่ไม่ถูกต้องตามที่จดแจ้งนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นการแบ่งเพื่อใส่บรรจุภัณฑ์ก่อนจะนำไปส่งขาย ส่วนประเด็นที่ อย.ตรวจพบเลขลอตยา ซึ่งมีการแจ้งว่าจะส่งออกนอกประเทศ แต่กลับพบว่าถูกจำหน่ายภายในประเทศนั้น เรื่องนี้ขอไปให้การกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น ทั้งนี้ รู้สึกตกใจที่มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโรงงาน พร้อมยืนยันว่า ประกอบอาชีพโดยสุจริต
จากการสอบสวนของชุดจับกุม นายสมศักดิ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ไม่ขอให้การใดๆ ของกลางที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดพบเป็นของเพื่อน เพื่อนนำมาฝาก จึงแจ้งข้อหาว่า “มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขาย” (ในข้อหาอื่นอีกประมาณ 6 ข้อหา พนักงานสอบสวนจะเป็นผู้ดำเนินการแจ้งเพิ่มเติม)
สำหรับของกลางตรวจยึด
1.ยา Methylphenidate ชื่อการค้า Ritalin ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 จำนวน 44,000 เม็ด เม็ด
2.ยา Viagra ไม่มีทะเบียน จำนวน 2,900 เม็ด
3.ผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม
4.ยาเขียวเหลือง หรือทรามาดอล (นอกระบบ) ประมาณ 2.7 ล้านเม็ด
5.วาสลีนทาริมฝีปาก พร้อมอุปกรณ์การผลิต (พบศพจิ้งจก) จำนวน
6.ยาฟอเมอรีนเถื่อนจำนวน 20,000 ขวด
และอื่นๆ อีกหลายรายการมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดประมาณ 30 ล้านบาท.-416.-สำนักข่าวไทย