fbpx

คลังแนะให้เตรียมพร้อมรองรับโอนเงิน 1 หมื่นบาท

กรุงเทพฯ 19 ก.ค.- นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพื่อรองรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 โดยโอนเงิน 10,000 บาทต่อคน จำนวน 14.55 ล้านราย แบ่งเป็น 1) ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ 12.40 ล้านราย และ 2) คนพิการ 2.15 ล้านราย จึงขอแนะนำให้


  1. กลุ่มเ ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ ที่ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 และคนพิการที่ได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาท อยู่แล้วตามฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จะได้รับสิทธิในโครงการฯ โดยไม่ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ อีก
  2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน ยกเว้นกรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้จะโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ ณ สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง

ทั้งนี้ คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือมีบัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) โดยยังไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนมีบัตรแบบใหม่ แต่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จะถูกรวมในกลุ่มนี้และได้รับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน โดยคนพิการ จะได้รับเงินผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
ช่องทางที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่ในปัจจุบัน โดยรับเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารหรือที่รับเงินสดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนกรณีคนพิการไม่ปรากฏข้อมูล ในการรับเงินเบี้ยความพิการ จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของคนพิการ

  1. กรณีคนพิการ บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือผู้ได้รับเงินเบี้ยความพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะได้รับโอนเงินตามโครงการฯ อย่างไรก็ดี ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
  2. การผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน สามารถผูกบัญชีกับธนาคารใดก็ได้ที่มีบัญชีเงินฝากโดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ โดยต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
  3. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการควรตรวจสอบบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือบัญชีเงินฝากธนาคารให้มีสถานะปกติ (Active) เพื่อพร้อมรับเงินตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
  4. ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่

รอบจ่ายซ้ำ จ่ายเงินภายในวันที่ ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน


ครั้งที่ 1 ในวันที่ 10, 18 ,22 ตุลาคม 2567

ครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 ,18 ,22 พฤศจิกายน 2567

ครั้งที่ 3 ในวันที่ 3 , 16 ,22 ธันวาคม 2567


โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน โดยมีช่องทางตรวจสอบการมีอยู่หรือผูกบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนได้หลายช่องทาง เช่น ผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร เป็นต้น

อย่างไรก็ดี หากเป็นผู้พิการบางกลุ่มที่มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ภายใน 31 สิงหาคม 2567 ขอให้ตรวจสอบเพิ่มว่า บัตรประจำตัวคนพิการของตนหมดอายุหรือไม่ หรือเป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) ที่ยังไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนเพื่อมีบัตรแบบใหม่กับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยหากเป็นกลุ่มดังกล่าวนี้ จะโอนเงิน 10,000 บาท ให้ตามสิทธิของกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนด้วย ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้มีจำนวนค่อนข้างน้อย

หมายเหตุ: ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ สามารถตรวจสอบผลการจ่ายเงินในวันถัดไปหลังจากวันที่จ่ายเงิน
ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
    1.1 เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th (ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป)
    1.2 เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th (ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป)
    1.3 แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” (ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
    1.4 Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
  2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
    2.1 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
    2.2 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345
    กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
  3. คนพิการ
    3.1 เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check
    3.2 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
    3.3 Call Center กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388
    ต่อ 701 – 702 (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ) หรือศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
    3.4 อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา
    08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์.515 สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด