คลังแนะให้เตรียมพร้อมรองรับโอนเงิน 1 หมื่นบาท

กรุงเทพฯ 19 ก.ค.- นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพื่อรองรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 โดยโอนเงิน 10,000 บาทต่อคน จำนวน 14.55 ล้านราย แบ่งเป็น 1) ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ 12.40 ล้านราย และ 2) คนพิการ 2.15 ล้านราย จึงขอแนะนำให้


  1. กลุ่มเ ผู้มีบัตรสวัสดิการฯ ที่ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 และคนพิการที่ได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาท อยู่แล้วตามฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จะได้รับสิทธิในโครงการฯ โดยไม่ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ อีก
  2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน ยกเว้นกรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้จะโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ ณ สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง

ทั้งนี้ คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือมีบัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) โดยยังไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนมีบัตรแบบใหม่ แต่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จะถูกรวมในกลุ่มนี้และได้รับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน โดยคนพิการ จะได้รับเงินผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
ช่องทางที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่ในปัจจุบัน โดยรับเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารหรือที่รับเงินสดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนกรณีคนพิการไม่ปรากฏข้อมูล ในการรับเงินเบี้ยความพิการ จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของคนพิการ

  1. กรณีคนพิการ บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือผู้ได้รับเงินเบี้ยความพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะได้รับโอนเงินตามโครงการฯ อย่างไรก็ดี ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
  2. การผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน สามารถผูกบัญชีกับธนาคารใดก็ได้ที่มีบัญชีเงินฝากโดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ โดยต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
  3. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการควรตรวจสอบบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือบัญชีเงินฝากธนาคารให้มีสถานะปกติ (Active) เพื่อพร้อมรับเงินตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
  4. ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่

รอบจ่ายซ้ำ จ่ายเงินภายในวันที่ ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน


ครั้งที่ 1 ในวันที่ 10, 18 ,22 ตุลาคม 2567

ครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 ,18 ,22 พฤศจิกายน 2567

ครั้งที่ 3 ในวันที่ 3 , 16 ,22 ธันวาคม 2567


โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน โดยมีช่องทางตรวจสอบการมีอยู่หรือผูกบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนได้หลายช่องทาง เช่น ผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร เป็นต้น

อย่างไรก็ดี หากเป็นผู้พิการบางกลุ่มที่มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ภายใน 31 สิงหาคม 2567 ขอให้ตรวจสอบเพิ่มว่า บัตรประจำตัวคนพิการของตนหมดอายุหรือไม่ หรือเป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) ที่ยังไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนเพื่อมีบัตรแบบใหม่กับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยหากเป็นกลุ่มดังกล่าวนี้ จะโอนเงิน 10,000 บาท ให้ตามสิทธิของกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนด้วย ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้มีจำนวนค่อนข้างน้อย

หมายเหตุ: ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ สามารถตรวจสอบผลการจ่ายเงินในวันถัดไปหลังจากวันที่จ่ายเงิน
ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
    1.1 เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th (ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป)
    1.2 เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th (ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป)
    1.3 แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” (ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
    1.4 Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
  2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
    2.1 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
    2.2 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345
    กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
  3. คนพิการ
    3.1 เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check
    3.2 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
    3.3 Call Center กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388
    ต่อ 701 – 702 (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ) หรือศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
    3.4 อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา
    08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์.515 สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

เปิดใจทหารกล้า ภูมิใจได้รับใช้ชาติ

18 ก.ค. – เปิดใจ 3 ทหารกล้าเหยียบระเบิดชายแดนช่องบก ด้าน “พลทหารธนพัฒน์” เล่านาทีเหยียบกับระเบิด ลั่นภูมิใจที่สมัครมารับใช้ชาติแม้ต้องตัดขา 1 ข้าง เผยพร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเข้าเยี่ยมและพุดคุยกับ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาด้านซ้ายจนต้องตัดขา เพื่อรักษาเนื้อเยื่อส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายเอาไว้ พลทหาร ธนพัฒน์ เปิดเผยช่วงที่เกิดเหตุเป็นการลาดตระเวนกลับฐานใกล้กับต้นพญาสัตบรรณ ตนได้เหยียบกับระเบิด เนื่องจากชุดทหารช่างตรวจไม่เจอ เพราะน่าจะเป็นระเบิดพลาสติก ตอนที่เกิดเหตุตนเองมีสติครบ พอเหยียบระเบิดปุ๊บตนเองรู้สึกร้อนเป็นไฟอยู่ที่ขา จากนั้นดูตนเองพบว่าขาขาด เพื่อนทหารก็สลบจากแรงระเบิด ตนจึงเข้าไปปลุกเพื่อนให้ช่วยลากตนออกจากจุดเกิดเหตุ พลทหาร ธนพัฒน์ บอกอีกว่า หลังจากที่เหยียบระเบิดตนเองเห็นขาแล้ว บอกกับตัวเองว่าหมดแล้วอนาคต แต่ก็ไม่เป็นไร ในการมาเป็นทหารครั้งนี้ตนเองสมัครใจมา พร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน.-สำนักข่าวไทย

“เเพทองธาร-บิ๊กเล็ก” บินอุบลฯ เยี่ยมทหารเหยียบกับระเบิด

ขส.ทบ.ดอนเมือง 18 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม​ พร้อมด้วย “แพทองธาร”​ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เยี่ยมให้กำลังใจทหารพราน​เหยียบกับระเบิด​ บาดเจ็บ​ 3 นาย ระบุขอรอผลสอบ 3 วัน​ ยัน​จะไม่หยุดนิ่ง ​หากพบผิดอนุสัญญาออตตาวา​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​วัฒนธรรม​ พร้อมด้วยพลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบกอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โดยก่อนเดินทางพลเอกณัฐพล​ กล่าวว่า​ วันนี้(18 ก.ค.) กองทัพบกจะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 3 นาย เมื่อนางสาวแพทองธาร ทราบเรื่อ จึงขอร่วมคณะไปด้วย และจะมีการมอบเงินช่วยเหลือในส่วนของนางสาวแพทองธาร​ พลเอกณัฐพล​ ยังกล่าวว่า สำหรับในส่วนของนายทหารที่ขาขาด​ จะได้รับ เงินบำรุงขวัญพระราชทาน​ประมาณ​ 50,000 บาท และเงินช่วยเหลือ​ประมาณ​ 900,000 บาท​ ต่อจากนี้ยังจะพิจารณาบรรจุญาติเข้ารับราชการทหารซึ่งในเบื้องต้นพี่สาวของนายทหารนายดังกล่าว แสดงความประสงค์จะเข้ารับราชการ ส่วนตัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บขาขาดจะได้รับเงินดูแลประมาณเดือนละ 15,600 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]