กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. – แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เสนอวาระต่อที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) พิจารณามาตรการช้อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่งเสริมการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้า ของขวัญ สินค้าจำเป็นทั่วไป เริ่มระหว่างวันที่ 15-31 ธันวาคม 2559 ด้วยการนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 15,000 บาทต่อราย สำหรับการยื่นแบบภาษีประจำปี 2559 โดยยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเดือนมกราคม-มีนาคม 2560 แม้คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท แต่รัฐบาลจะได้รับภาษีมูลค่าเพิ่มทางอ้อมกลับคืนมา 6,000-7,000 ล้านบาท จึงมีส่วนช่วยขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศอีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมรายงาน ครม. เพื่อทราบการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประกาศเอกชนผู้ผ่านการประเมินสูงสุดสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ตามที่ รฟม.กำลังดำเนินการคัดเลือกผู้รับสัมปทานการลงทุนออกแบบและก่อสร้างงานโยธาการจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุงรักษา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง นั้น คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ. เอกชนร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2556 ประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติและเทคนิค) และเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีผลสรุปว่ากิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) (ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS Group) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) เป็นเอกชนผู้ผ่านการประเมินสูงสุด
หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะพิจารณากำหนดประเด็นเจรจาต่อรองและเริ่มการเจรจาต่อรองกับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ให้ได้ข้อสรุปก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติประมาณเดือนมีนาคม – เมษายน 2560 การนี้ รฟม. เร่งรัดประเมินข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ เป็นไปตามนโยบายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายไว้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาสัมปทานได้ภายในเดือนเมษายน 2560
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และสายสีเหลืองฯ นั้น เป็นโครงการรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม.ลงทุนค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและเอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนด้านโครงสร้างงานโยธา งานระบบและขบวนรถไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร (PPP Net Cost) มีระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 33 ปี 3 เดือน โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา เป็นระยะเวลา 30 ปี ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ มีมูลค่าลงทุนรวม 53,519.50 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ มีมูลค่าลงทุนรวม 51,931.15 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย