กรุงเทพ
11 พ.ค. – ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น อยู่ที่
80.40 ฟื้นตัวหลังซบเซาต่อเนื่อง 3 เดือน
นักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนช่วยวิกฤติโควิด-19
พร้อมเสนอฟื้นมาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายไพบูลย์
นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย
เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ประจำเดือนพฤษภาคม2563 ว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3
เดือนข้างหน้าคือเดือนกรกฎาคม 2563
อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (Neutral) ดัชนีเพิ่มขึ้น 42% มาอยู่ที่ระดับ 80.40 จาก
56.70 จากการสำรวจครั้งก่อน หลังจากปรับตัวลงอยู่ในเกณฑ์ซบเซาติดต่อกันสามเดือน
โดยผลสำรวจพบว่านักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด
รองลงมาคือการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศและการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว
รวมถึงการค้นพบวัคซีนป้องกัน COVID-19
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด
รองลงมาคือการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และการไหลเข้า-ออกของเงินทุน
รวมถึงความกังวลหาก COVID-19 เกิดการแพร่ระบาดรอบสอง” โดยหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด
คือหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD) หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด
คือหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM)
นายไพบูลย์
กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นดัชนีมีโอกาสแกว่งตัว
แต่แนวโน้มที่ดัชนีจะปรับตัวลงแรงมีจำกัด โดยอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง
เพราะดัชนีปรับตัวขึ้นมาถึง 30 % จากระดับต่ำสุดในปีนี้ที่ 969 จุด คาดปีนี้มีโอกาสที่จะเห็นดัชนีหุ้นไทยที่ 1,400
จุด
โดยขึ้นอยู่กับมาตรการดูแลสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศ
ไม่ให้เกิดการระบาดในรอบ 2 จนถึงขั้นต้องมีการล็อกดาวน์เกิดขึ้นอีก และ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการดูแลบริษัทขนาดกลาง และ ขนาดเล็กที่ประสบภาวะล้มละลาย
เพื่อไม่ให้กดดันให้เศรษฐกิจปรับตัวลงลึกมากกว่าที่เป็นอยู่
ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะติดลบ 6-7%
นอกจากนี้ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทย
จะมีการหารือร่วมกันเพื่อเสนอข้อคิดเห็นต่อรัฐบาลในการจัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ โดยจะเสนอแนะให้มีกระตุ้นให้คนที่มีกำลังซื้อที่ไม่ได้รับผลกระทบโควิด-19
ออกมาจับจ่ายใช้สอย และ ท่องเที่ยวในประเทศ
โดยอาจฟื้นมาตรการช้อปช่วยชาติ
มาตรการกระตุ้นเที่ยวไทย เป็นต้น ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องเป็นแพ็กเก็จใหญ่
เหมือนกับมาตรการเยียวยา จึงจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้
นางสาวอริยา
ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า
มุมมองของตลาดคาดว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในเดือนพฤษภาคมนี้
อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากระดับร้อยละ 0.75 ในปัจจุบัน
จากปัจจัยหลักคืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มติดลบ
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกที่ลดลง และ
การไหลออกสุทธิของกระแสเงินลงทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย