โรงกลั่นร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน / ช้อปช่วยชาติวันสุดท้ายคึกคัก

กทม. 16 ม.ค. – โรงกลั่นประชุมปรับมาตรฐาน ร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ด้านช้อปช่วยชาติวันสุดท้ายคึกคัก


เรื่องในประเทศวันนี้ เรื่องฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ยังเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ กระทรวงพลังงานคุยกับโรงกลั่นน้ำมัน เพื่อเร่งปรับมาตรฐานการผลิตน้ำมันเป็นยูโร 5 ในขณะที่ช้อปช่วยชาติวันสุดท้ายคึกคัก



วันนี้จากที่สำรวจก็มีทั้งผู้ใช้สิทธิ์ซื้อสินค้า ในรายการช้อปช่วยชาติวันสุดท้าย คึกคึกทั้งสินค้าโอทอป หนังสือนิตยสาร และยางรถยนต์ ยางมอเตอร์ไซค์ที่กำหนดว่าใช้ยางภายในประเทศ เพื่อส่งเสริมเกษตรกร ช่วยดึงราคายาง ในส่วนของยางพาราข้อกำหนดสำคัญคือ ต้องมีคูปองจากการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งหลายร้านก็จะเปลี่ยนยางให้ลูกค้าไปก่อนแล้ว คูปองจะส่งตามไปทีหลัง ร้านเปลี่ยนยางหลายแห่งบอกเลยว่า มาตรการนี้ทำให้คึกคัก แต่วันนี้หลายคนก็ต้องผิดหวัง เปลี่ยนยางไม่ได้เพราะยางที่เข้าร่วมโครงการมีคนมาใช้บริการมาจนหมดร้าน

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการช้อปช่วยชาติ และ โครงการ  1 หมู่บ้าน 1 กม. ที่ส่งเสริมให้ใช้ยางพาราไปทำถนน ได้ส่งผลให้ราคายางขยับขึ้นมาประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัมจากช่วงปลายปีมาอยู่ที่ 46 บาทต่อกิโลกรัม  โดยช้อปช่วยชาตินับว่าประสบความสำเร็จ ทำให้กลุ่มเกษตรกรขายโดย 5 สหกรณ์ขายได้โดยตรงโรงงานเป็นครั้งแรก ทำให้เกษตรกรรับทราบความต้องการและปรับปรุงคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของโรงงาน ในขณะที่โรงงานยางรถที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการในรอบนี้ มีความตื่นตัวไปทำแผนรับซื้อตรงจากเกษตรกรมากขึ้น เพื่อจะได้มีโอกาสในการเข้าร่วมโครงการภาครัฐในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นผลดีต่อผู้บริโภคเพราะโรงงานที่ไม่ได้ร่วมโครงการก็ได้จัดโปรโมชั่นแข่งขันกับโรงงานยางที่ร่วมโครงการ

สำหรับผลสรุปโครงการช้อปช่วยชาติ มี 5 สหกรณ์ ขายยางแท่งโดยตรงกับ 11 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ ขายยางได้ 2.67 ล้านกิโลกรัม การยางออกคูปองรับรองเพื่อไปหักลดภาษีรวม 4.49 แสนใบ

ด้านคุณสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการช้อปช่วยชาติทำให้ยอดขายหนังสือขยายตัวร้อยละ 10-20 และทางสมาคมได้เสนอไปยังกระทรวงการคลังให้จัดทำโครงการนี้ทั้งปี จะทำให้ยอดขายฟูขึ้น จากที่เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ยอดขายหนังสือเหลือปีละ 15,000-16,000 ล้านบาท จากในอดีตเคยสูงกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งหากกระทรวงการคลังออกมาตรการลดหย่อนภาษีให้กับผู้ซื้อทั้งปีจะทำให้รายได้ภาครัฐไม่ลดลงและยังเพิ่มขึ้นด้วย เพราะจะเก็บภาษีจากธุรกิจหนังสือและผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น นักเขียน, โรงพิมพ์, กอง บก. ได้มากกว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่อาจลดลงจากการลดหย่อนภาษีซื้อหนังสือทั้งได้ถึง 9.8 เท่า

นอกจากนี้ ปัญหาหมอกควัน ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ปัจจุบันนี้ ทางสมาคมหนังสือ ก็ฝากรณรงค์ว่า หากใช้พวงหรีดหนังสือ แทนพวงหรีดดอกไม้ทั่วไป ก็จะช่วยให้ลดฝุ่นน้อยลง เพราะหรีดดอกไม้ต้องเผาทิ้ง ในขณะที่หรีดหนังสือ สามารถนำไปบริจาคต่อ สร้างปัญญาให้ผู้อ่าน โดยขณะนี้มี 15 ร้านหนังสือพร้อมทำพวงหรีดหนังสือ ดูรายละเอียดได้ที่เพจหรีดหนังสือได้เลยพูดถึง การเร่งแก้ปัญหาฝุ่นเกินมาตรฐาน ในวันนี้ กรมธุรกิจพลังงาน ประชุมร่วมกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันหารือเร่งรัดแผนลงทุนปรับปรุงโรงกลั่น จากปัจจุบันที่กลั่น มาตรฐานยูโร 4 เป็นยูโร 5 โดยโรงกลั่นทั้ง 6 แห่ง จะจัดทำแผนลงทุนมาให้รับทราบภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะสามารถลดมลพิษฝุ่นลงได้ จากสามารถลดค่ากำมะถันจากปัจจุบันยูโร 4 อยู่ที่ 50 PPM (หรือ 50 ส่วนในล้านส่วน) ลงมาอยู่ที่ 10 PPM  ประเมินว่าต้องลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากบางโรงกลั่นก็มีการปรับปรุงเครื่องจักรที่สามารถกลั่นน้ำมันเป็นมาตรฐานยูโร 5 ได้แล้ว เช่น โรงกลั่นบางจาก และโรงกลั่นไทยออยล์ ส่วนโรงกลั่นอื่นที่ยังเป็นมาตรฐานยูโร 4 ต้องใช้ระยะเวลาปรับปรุง 5 ปี ซึ่งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็จะถูกผูกเข้าไปในราคาขายน้ำมันด้วย แต่จะเป็นอัตราเท่าใดนั้น ก็อยู่ในระหว่างการคำนวณราคา

นอกจากนี้ กรมธุรกิจพลังงาน เตรียมออกประกาศสเปคน้ำมันไบโอดีเซลเกรดพิเศษ บี20 เพื่อเข้าจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันทั่วไป จากเดิมขายผ่านฟลีทรถเท่านั้น ซึ่งจะมีการกำหนดประเภทรถยนต์ที่จะเข้ามาเติมด้วย ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มรถบรรทุกเป็นหลัก โดยพบว่าน้ำมันบี20 สามารถลดฝุ่นได้อย่างน้อยร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบน้ำมันดีเซล และที่สำคัญยังช่วยดูดซับน้ำมันปาล์ม ปัจจุบันยอดใช้น้ำมันบี20 อยู่ที่ 5 ล้านลิตรต่อเดือน และคาดว่าภายในเดือนมกราคมนี้น่าจะเห็นยอดใช้อยู่ที่ 10 ล้านลิตรต่อเดือน

ในขณะที่ ขสมก.ประชุมร่วมกรมควบคุมมลพิษ และประกาศเพิ่มใช้ ดีเซล B20 เพราะอัตราการสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล B7 และยังมีค่าควันดำอยู่ในเกณฑ์ปกติ และค่ามลพิษ (CO2) ลดลง 15 % จึงส่งผลทำให้ค่ามลพิษในอากาศภาพรวมลดลงด้วย ขสมก.จึงขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 2,075 คัน ในเร็วๆนี้ และ ขสมก. จะงดนำรถโดยสารเครื่องดีเซลที่มีสภาพเก่าออกวิ่งให้บริการชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะสั้น โดยระยะยาว มีแผนปรับเปลี่ยนรถโดยสารเป็นประเภท EV และไฮบริด ทั้งหมดในปี 2565 .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย