กระทรวงการคลัง 19 เม.ย. – รัฐบาลเตรียมออกมาตรการดันเศรษฐกิจ 3 เดือน ส่งต่อรัฐบาลใหม่ ผ่านโครงการช้อปช่วยชาติ ลดภาระเปิดเทอม ท่องเที่ยวเมืองรอง เมืองหลัก ส่งเสริมผู้มีรายได้น้อยซื้อบ้าน หลังพบสัญญาณจีดีพีชะลอตัว ไตรมาส 1-2 โตเพียงร้อยละ 3 เตรียมเสนอ ครม.ภายใน 2 สัปดาห์ คาดใช้งบ 2 หมื่นล้าน ยืนยันรัฐบาลรักษาการทำได้ เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจทรุด
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงการคลัง หลังพบว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีเศรษฐกิจชะลอตัวจากหลายปัจจัยทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค การใช้จ่ายงบประมาณยังเป็นไปตามเป้าหมาย รัฐบาลจึงต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเกิดการสะดุด และส่งไม้ต่อให้รัฐบาลชุดใหม่ขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยไม่ต้องใช้กำลังหรืองบประมาณอีกจำนวนมากในการฟื้นเศรษฐกิจ จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งศึกษามาตรการเสนอ ครม.พิจารณาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า หวังดูแลทั้งด้านกำลังซื้อเพื่อกระตุ้นการบริโภค การท่องเที่ยว การใช้จ่าย ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ภาคอสังหาริมทรัพย์การลงทุนบางส่วน
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมสรรพากรเร่งรัดและศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีจากการค้าขายออนไลน์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพราะการค้าออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องนับล้านรายการ แต่ขณะนี้ข้อมูลการค้าและจัดเก็บภาษียังทำไม่ได้ จึงให้ประสานกับกฤษฎีกา เร่งรัดภาษีออนไลน์ ไม่ได้หวังรังแกรายย่อย แต่ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อจัดเก็บภาษีตามจริงที่เกิดขึ้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานที่ประชุมคาดว่าจีดีพี ไตรมาส 1-2 อาจเติบโตกว่าร้อยละ 3 หากปล่อยให้ทรุดตัวแม้เพียงช่วง 2-3 เดือนจะใช้เวลาและกำลังดึงกลับมาลำบาก จึงต้องพยุงให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่บริหารได้อย่างไม่มีปัญหา และมาตรการชุดนี้แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการยังสามารถดำเนินการได้ เพื่อดูแลเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลเตรียมขยายมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อนำรายจ่ายท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีและมาตรการต่าง ๆ จากการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง ให้ครอบคลุมการท่องเที่ยวทุกจังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าจะใช้เงินงบประมาณทั้งหมดประมาณ 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีภาษีช่วยเหลือด้านการศึกษา โดยต้องออกมาในช่วงก่อนเปิดเทอม เพื่อลดภาระให้กับผู้ปกครองในการซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน กีฬา ผ่านมาตรการช้อบช่วยชาติ รวมทั้งการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อหนังสือให้ยาวต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อส่งเสริมการอ่าน การสร้างทุนมนุษย์ ระยะยาว และยังส่งเสริมการเรียนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต ทั้งวิศวกรรม วิทยาศาตร์ เพื่อให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) มีโอกาสส่งเสริมให้เรียนตามกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนการส่งเสริมการลงทุนติดตั้งเครื่องคิดเงินชำระสินค้า POS เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากรสามารถนำค่าใช้จ่ายลงทุนหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5-2 เท่าของค่าใช้จ่าย
ด้านที่อยู่อาศัย เพื่อผู้มีรายได้น้อยยังมีความต้องการบ้านจำนวนมาก แต่มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการคุมเข้มการวางเงินค้ำประกัน LTV อาจกระทบต่อการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร จึงต้องการมอบหมายให้แบงก์รัฐ ทั้งธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นกลไกหลักสำคัญในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อซื้อบ้าน มาตรการทุกด้านจะสรุปได้ทั้งหมดเร็ว ๆ นี้ .-สำนักข่าวไทย