BIG STORY : เตือนสังคมเรียนรู้ ไม่ให้เกิดซ้ำรอย เด็กหนีออกจากบ้าน

กทม. 11 ม.ค. – แม้ตอนนี้จะเจอน้องอายุ 14 ปี ที่หนีออกจากบ้านแล้ว แต่นอกเหนือจากสาเหตุเกิดจากอะไรที่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้คนในสังคมไม่ใช่แค่เสพข่าวเท่านั้น ควรเรียนรู้จากสิ่งที่เกิด เพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำรอยเดิม


ใจหายใจคว่ำไปหลายวัน หลังพ่อแม่สาวน้อยวัย 14 ปี เฝ้าย้ำตามหาหลังดวงใจหายออกจากบ้านไปนานเกือบครึ่งเดือน สุดท้ายก็ตามจนเจอ ส่วนข้อเท็จจริงว่าใครทำอะไรที่ไหน อย่างไร คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิสูจน์ แต่สิ่งที่อาจจะอันตรายกว่าความจริงอันโหดร้ายที่เด็กหญิง รวมทั้งชายวัยกลางคน ลามไปถึงครอบครัวทั้งสองต้องเผชิญก็คือ ประชาชนคนวงนอกที่คอยเฝ้าติดตามข่าวสาร โดยข้อมูลที่มีเพียงน้อยนิดแล้วก็ออกความคิด ใช้คำพูดแต่งตั้งตัวเองเป็นศาล วิจารณ์กันสนุกปากผ่านคีย์บอร์ดบนโลกโซเซียล โดยอาจไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองสนุกอาจไปทำลายชีวิตใครอีกหลายคน


อธิบดีกรมเด็กและเยาวชนวอนสังคม การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กในระยะยาว จึงขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว


เรื่องนี้สนุกปากก็จริง แต่จิตแพทย์ชี้สังคมควรนำมาใช้เป็นบทเรียน ไม่ใช่ปล่อยให้ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป รอเรื่องใหม่ซ้ำเดิม ให้เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะเรื่องเดิมๆ ที่ย้ำแล้วย้ำอีก คือ เด็กวัยรุ่นมักมีต่อต้านพ่อแม่ จิตใจขาดความยั้งคิด และบทเรียนสำคัญในเรื่องนี้คือ เหตุใดที่เด็กไปไว้ใจคนนอก ก็ต้องไปหาจุดอ่อน รวมทั้งสอนไว้วางใจคนใกล้ตัว  

ขณะที่โรงเรียนต้นสังกัดของเด็กหญิง เผยพร้อมดูแลเรื่องการเรียนช่วงที่หายไป และเตรียมนักจิตวิทยามาดูแลสภาพจิตใจ แต่นักวิชาการด้านครอบครัว ระบุว่า คงยากที่จะห้ามการติฉินนินทา และคำถามจากคนรอบข้าง ที่สำคัญต้องระวังการนำเสนอเรื่องราวทุกรูปแบบ เพราะลำพังเรื่องที่เกิดก็บอบช้ำมากพอ ควรใช้เหตุการณ์มาเป็นบทเรียนสังคมมากกว่า 

ขณะที่สมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยการนำเสนอข่าวนี้ เพราะประเด็นการนำเสนอข่าวเปลี่ยนจากเด็กหายออกจากบ้านเป็นประเด็นที่อาจเข้าข่ายล่อลวง เกรงกระทบอนาคตเด็ก วอนสื่อควรพึงมีส่วนไม่เป็นผู้ละเมิดและซ้ำเติม. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง