โซล 10 ม.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ติงญี่ปุ่นว่า ควรมีทัศนคติต่อเรื่องอดีตที่นอบน้อมมากกว่านี้ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของสองประเทศตึงเครียดยิ่งขึ้นจากข้อพิพาทประวัติศาสตร์และดินแดน
ประธานาธิบดีมุนกล่าวกับสื่อในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรมีทัศนคติที่นอบน้อมมากกว่านี้ แต่นักการเมืองญี่ปุ่นกลับนำเรื่องในอดีตมาเล่นการเมือง ซึ่งหมายถึงเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นประณามคำตัดสินของศาลเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ก่อนที่สั่งยึดทรัพย์ของนิปปอนสตีลแอนด์ซูมิโตโมเมทัล เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก่อนหน้านี้ที่ให้ชดใช้ผู้ถูกบังคับใช้แรงงานช่วงสงครามโลก อีกทั้งยังเรียกเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้เข้าไปรับคำประท้วง ประธานาธิบดีมุนกล่าวว่า ขอให้ทุกคนเคารพคำตัดสินของศาล เพราะชาวเกาหลีใต้เองรู้สึกว่าสนธิสัญญาปี 2508 ที่ฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตของสองประเทศไม่ได้แก้ไขปัญหาทั้งหมดให้แก่ผู้ตกเป็นเหยื่อ
ประเด็นหลัก ๆ ที่เป็นข้อพิพาทของสองประเทศคือ เรื่องสตรีถูกบังคับบำเรอกามทหารญี่ปุ่นสมัยสงคราม เรื่องผู้ถูกบังคับใช้แรงงานหนักให้แก่บริษัทญี่ปุ่น และเรื่องหมู่เกาะในทะเลญี่ปุ่นที่ญี่ปุ่นเรียกว่าทาเคชิมะและเกาหลีใต้เรียกว่าด๊กโด ปัจจุบันมีหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ประจำการอยู่ ข้อมูลของทางการเกาหลีใต้เผยว่า มีชาวเกาหลีถูกบังคับใช้แรงงานหนักราว 780,000 คน ตลอดเวลาที่ตกเป็นอาณานิคมญี่ปุ่นนาน 35 ปี ญี่ปุ่นยืนยันว่า ชดใช้ทางประวัติศาสตร์ทุกเรื่องแล้วตามสนธิสัญญาปี 2508 ที่ให้เงินช่วยเหลือและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้เรียกร้อง.- สำนักข่าวไทย