ราชทัณฑ์ฟัน 6 ข้าราชการประพฤติมิชอบ รับปีใหม่

ราชทัณฑ์ 5 ม.ค.-ที่ประชุม อ.ก.พ.กรมราชทัณฑ์ ครั้งแรกของปี 62 มีมติลงโทษข้าราชการกระทำผิดวินัย 6 ราย ‘ไล่ออกจากราชการ 5 ราย-ให้ออกจากราชการ1 ราย’ พฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด-นำหมึกสักเข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำแลกผลประโยชน์-ผลตรวจปัสสาวะพบสารแอมเฟตามีน ฯลฯ


พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์  อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า วานนี้(4 ม.ค.)กรมราชทัณฑ์ได้เริ่มต้นจัดการประชุม อ.ก.พ.กรมราชทัณฑ์ ครั้งที่1/2562ขึ้น โดยที่ประชุมมีมติพิจารณาลงโทษข้าราชการกรณีกระทำผิดวินัย จำนวนทั้งสิ้น 6 ราย โดยมีมติไล่ออกจากราชการ จำนวน 5 ราย มีพฤติการณ์ต่างๆ ได้แก่    

1.ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต


2.มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และลักลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำฯ

3.นำหมึกสักเข้าไปให้ผู้ต้องขังภายในเรือนจำฯ และได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 

4. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน


5. ตรวจปัสสาวะ ผลปรากฏพบสารเสพติดประเภทเมทเอมเฟตามีนในปัสสาวะ และละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าสิบห้าวัน              

อีกทั้งที่ประชุมยังมีมติให้ออกจากราชการอีกจำนวน 1 รายด้วยพฤติการณ์นำยา B5 (Benzhexol) จำนวน 5 เม็ด  เข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำฯ ซึ่งถือเป็นสิ่งของต้องห้าม

ทั้งนี้ในปี 2561 ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์มีมติพิจารณาลงโทษข้าราชการที่ทำผิดวินัย ซึ่งได้ไล่ออก ปลดออกและให้ออกไปแล้ว 43 ราย ด้วยพฤติการณ์ที่ทำให้เกิด ความเสื่อมเสีย และมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า ตลอดปีที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคน ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส  ตรวจสอบได้  ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย แต่ยังคงมีข้าราชการส่วนน้อยที่มีพฤติการณ์กระทำผิด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ มิได้นิ่งเฉยต่อการกระทำของบุคคลเหล่านี้และได้ดำเนินการพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิด เพื่อมิให้เป็นแบบอย่างกับข้าราชการอื่นๆ ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต่อไป.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง