บขส. คาดยอดคนเดินทางกลับภูมิลำเนาสูงสุดคืนนี้

หมอชิต 28 ธ.ค. –ประชาชนเริ่ม ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ โดยคาดว่าคืนนี้ จะมีประชาชนเดินทางออกมาที่สุด 190,000 คน  เที่ยวรถมากกว่า 8,000 เที่ยว 


บรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หมอชิต 2 ประชาชนเดินทางมาเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา กันแน่นหมอชิต 2  โดยที่ บริเวณชั้น 1 เดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ ประชาชน ต้องนั่งรอกับพื้น รอซื้อตั๋วโดยสารกลับบ้านช่วงปีใหม่ จากการสอบถาม พบว่า บางส่วนเดินทางมาตั้งแต่เมื่อช่วงดึก ของคืนที่ผ่านมา(27 ธ.ค.) เพื่อหาตั๋วเดินทางกลับบ้าน แต่ยังไม่ได้ ขณะที่บางเส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือ เช่น เพชรบูรณ์ ตั๋วเต็มจนถึงพรุ่งนี้  (29 ธ.ค.)ต้องรอรถเสริมที่ทาง บขส.เร่งดำเนินการจัดหารองรับเพิ่มเติม ขณะที่เส้นทาง จ. ชัยนาท ,จ.นครสวรรค์,จ. พิษณุโลก ยังมีตั๋วจำหน่าย 


ส่วนการเดินทางสู่ภาคอีสาน ประชาชนยังไม่หนาแน่นมากนัก เนื่องจากบางส่วนเลือกเดินทางกลับล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.) อีกทั้งจำนวนรถโดยสารที่ทาง บขส.จัดไว้บริการในทุกเส้นทางสู่ภาคอีสาน ทั้งรถ บขส. รถร่วม รถตู้ ทาง บขส. เพิ่มเที่ยวเดินรถรองรับ ปชช.มากกว่าวันปกติอยู่แล้ว 


นายณัฐวุฒิ อ่อนน้อม  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ บขส. คาดว่าตลอดคืนี้ จนถึงเช้า 29 ธ.ค. จะเป็นช่วงที่มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกทม. เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่มากที่สุด  ซึ่ง  คาดว่า ภาพของการเดินทางใน  4 สถานี ทั้ง หมอชิต, สายใต้ใหม่ ,เอกมัย และ รังสิต อยู่ที่ประมาณ 1.9 แสนคน  ทางบขส. จัดรถ รองรับประชาชนเพิ่มขึ้น เป็น 8,289 เที่ยวต่อวัน ซึ่งจะรองรับผู้โดยสาร ได้ 1.8 ถึง 2 แสนคนต่อวัน ส่วนในบางเส้นทางที่มีรถไม่เพียงพอ ขณะนี้ได้มีสลับเปลี่ยนจัดรถมาวิ่งเสริมในเส้นทางที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เชื่อจะช่วยลดความแออัดและส่งพี่น้องประชาชนเดินทางสู่ภูมิลำเนาได้ทั้งหมด ส่วนเหตุผลที่ทำให้สัดส่วนการเดินทางช่วงปีใหม่ในปีนี้ที่มี ประชาชน.ขึ้นเหนือมากกว่าอีสานถึงร้อยละ 60 ทางผู้บริหาร บขส. ชี้ว่าปัจจัยจากสภาพอากาศที่เย็นลง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง