วัดอู่ทรายคำเชียงใหม่ ยืนยันไม่ได้เปิดเป็นโรงแรม


เชียงใหม่ 5 ก.ย.-หลังมีการแชร์ภาพห้องพักคล้ายโรงแรมสุดหรูอยู่ในวัดอู่ทรายคำ กลางเมืองเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ขณะที่วัดยืนยันเป็นห้องพักรับรองของพระสงฆ์และผู้ติดตามที่มาจากต่างจังหวัด ไม่ได้บริการลักษณะโรงแรม


5-9-2559 19-24-28 5-9-2559 19-24-55

อาคารตึก 3 ชั้น ภายในวัดอู่ทรายคำ ย่านช้างม่อย กลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถูกระบุว่าด้านในเป็นห้องพักสุดหรูหราไม่ต่างจากโรงแรมชั้น 1 เข้าไปตรวจสอบภายในพบว่า ชั้นล่างเป็นเคาท์เตอร์ลงทะเบียนเข้าพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันเฉพาะพระภิกษุสงฆ์และผู้ติดตามเท่านั้น พร้อมกับพาขึ้นไปชมห้องพักบนชั้น 2 และชั้น 3 ซึ่งมีทั้งหมด 10 ห้อง ซึ่งเป็นห้องปรับอากาศทั้งหมด มีเตียงที่นอน ตู้ ทีวี ตู้เย็น เช่นเดียวกับห้องพักทั่วไป มีบริการไวไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนายืนยันอำนวยความสะดวกได้ตามสมควร แม้แต่การนอนฟูกที่ไม่นุ่มเกินไปก็ไม่เข้าข่ายอาบัติ


5-9-2559 19-25-07 5-9-2559 19-25-46

วัดอู่ทรายคำ รู้จักกันดีในกลุ่มพระสงฆ์จากต่างจังหวัด ที่เดินทางมากิจธุระต่างๆ และรักษาอาการอาพาธที่เชียงใหม่ ซึ่งเปิดให้พักในศาลามากว่า 20 ปี และพึ่งปรับปรุงเป็นห้องลักษณะนี้เมื่อ 6 ปีก่อน

5-9-2559 19-25-24 5-9-2559 19-26-40


อย่างพระภิกษุกจากรุงเทพฯ ซึ่งเข้าพักที่นี่ บอกว่า การหาที่พักค่อนข้างยาก กุฏิพระตามวัดต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ส่วนใหญ่จะเต็ม ไม่สามารถเข้าพักตามโรงแรมหรือรีสอร์ทได้ การเข้าพักที่นี่จึงถือว่าเหมาะสมและสะดวกที่สุด

5-9-2559 19-26-58 5-9-2559 19-27-33

แต่ภาพและข้อความที่มีการโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ทั้งห้องที่หรูหรา ผู้คนที่เข้าพักและค่าเข้าพัก คล้ายกับกับธุรกิจโรงแรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองขอตรวจสอบทั้งรายชื่อผู้เข้าพักและการจัดเก็บรายได้ โดยวัดอ้างว่าภาพบางส่วนมีการตัดต่อ และไม่มีการเก็บค่าเช่าห้อง แต่ขึ้นอยู่กับจิตศรัทธาของผู้ที่มาพัก ที่สำคัญไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าพัก

5-9-2559 19-28-10 5-9-2559 19-27-50

แม้เบื้องต้นยังไม่พบความผิดของวัด ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเชียงใหม่ และวัดยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอาคารที่พักสงฆ์สูง 4 ชั้น ใกล้กับหอไตรโบราณ ซึ่งถูกระงับการก่อสร้างจนกว่าจะปรับรูปแบบให้เหมาะสม ซึ่งอาจต้องรวมถึงการบริหารจัดการและการชี้แจงให้พุทธศานิกชนและคนในสังคมเข้าใจให้มากขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง