บันเต็น 24 ธ.ค.- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียตรวจเยี่ยมเมืองปันเดกลัง เมืองเอกของจังหวัดบันเต็น ริมฝั่งตะวันตกของเกาะชวาที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันเสาร์ ด้านเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญชี้แจงสาเหตุที่ไม่มีการเตือนภัยสึนามิ
ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เกิดสึนามิเมื่อค่ำวันเสาร์ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ และในอนาคตสำนักงานอุตุนิยมวิทยา บรรยากาศวิทยาและธรณีฟิสิกส์ (บีเอ็มเคจี) จะติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบและระบบเตือนภัยที่จะสามารถแจ้งไปถึงประชาชนได้ทุกคน ด้านบีเอ็มเคจียืนยันว่า การที่ภูเขาไฟอานัก กรากาตัวระหว่างเกาะชวาและเกาะสุมาตราพังถล่มบางส่วนหลังปะทุใหญ่ เป็นสาเหตุให้เกิดสึนามิสูง 2-3 เมตรกระหน่ำทั้งสองฝั่งของช่องแคบซุนดา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งใช้ทั้งเครื่องจักรหนักและมือเปล่ารื้อค้นซากปรักหักพังหวังพบผู้รอดชีวิต หลังจากมีผู้เสียชีวิตแล้ว 280 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 1,000 คน ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งร่วม 12,000 คนต้องอพยพขึ้นสู่ที่สูง ทางการยังคงคำสั่งเตือนภัยคลื่นสูงไปจนถึงวันพุธ
ด้านโฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติอินโดนีเซียชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่มีการเตือนภัยสึนามิเนื่องจากตรวจไม่พบ และสาเหตุที่ตรวจไม่พบก็เพราะทุ่นลอยเตือนภัยสึนามิไม่ได้ใช้งานเลยตั้งแต่ติดตั้งไว้หลังเกิดสึนามิปลายปี 2547 เพราะขาดงบประมาณซ่อมบำรุง ถูกปล่อยปละ จึงต้องเร่งเสริมสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้าให้เข้มแข็งกว่านี้ ขณะที่นักวิชาการอังกฤษให้ความเห็นว่า ระบบทุ่นลอยดังกล่าวใช้ตรวจสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหว ไม่ใช่สึนามิเพราะภูเขาไฟปะทุ ยิ่งสึนามิเกิดขึ้นในช่วงค่ำยิ่งสร้างความโกลาหล เพราะมองไม่เห็นคลื่นที่ถาโถมเข้ามาและเส้นทางที่จะหนีเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้การที่สึนามิเกิดใกล้ชายฝั่งมาก ต่อให้มีระบบเตือนภัยอยู่ถัดจากภูเขาไฟลูกดังกล่าวก็ยากจะเตือนภัยประชาชนได้ทัน.- สำนักข่าวไทย