สำนักข่าวไทย 20 ธค..-ขับเคลื่อนเรือนจำสุขภาวะ สร้างเสริมพลังบวกผู้ต้องขัง24ชม. เน้นดูแลสภาวะแวดล้อมและตนเองให้มีสุขภาพดีทั้งกาย-ใจ อยู่ร่วมกันกับผู้อื่นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและสร้างสรรค์
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวในงานประชุมวิชาการเชิงนโยบายเรื่อง “การเดินทางของเรือนจำสุขภาวะ” ว่า สสส.ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนให้เกิด “เรือนจำสุขภาวะ” ในสังคมไทย โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม แนวคิดเรือนจำสุขภาวะ มาจากการหลอมรวมความรู้ที่ได้จากการวิจัยเชิงนโยบายและการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น คือนวัตกรรมที่ก่อให้เกิด “ความรู้ที่มาจากการปฏิบัติ” โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาตลอด 7 ปี แสดงให้เห็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนเรือนจำให้เป็นพื้นที่ซึ่งผู้ต้องขังสามารถมีประสบการณ์ในทางบวก ทั้งในส่วนของการดูแลสภาวะแวดล้อมและดูแลตนเองให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและเรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์
รศ.ดร.นภาภรณ์ หะวานนท์ ที่ปรึกษาของโครงการขับเคลื่อนเรือนจำสุขภาวะ กล่าวเสริมว่าหลักการสำคัญของเรือนจำสุขภาวะคือ กระบวนการฟื้นฟูผู้ต้องขัง ที่ควรบูรณาการเข้าไปในวิถีการดำรงชีวิตตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงในเรือนจำ ซึ่งหมายรวมถึงสภาวะแวดล้อมทั้งทางกายภาพ วิถีการดำรงชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ต้องขัง และกับโลกภายนอก ต้องให้ความสำคัญกับการทำให้ชีวิตในเรือนจำแตกต่างจากชีวิตในสังคมทั่วไปให้น้อยที่สุด เพื่อว่าเมื่อเวลาของการลงโทษสิ้นสุดลง ผู้พ้นโทษจะคืนกลับสู่สังคมอีกครั้งได้โดยง่าย โดยเรือนจำสุขภาวะมีองค์ประกอบอย่างน้อย 7 ด้าน ได้แก่ 1 เพิ่มความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ต้องขัง 2 ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคที่พบบ่อยในเรือนจำ (3) เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการบริการสุขภาพ (4) ผู้ต้องขังมีพลังชีวิต คิดบวก และมีกำลังใจ (5) ดำรงชีวิตอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรและเอื้ออาทร (6) สามารถธำรงบทบาทของการเป็นแม่ ลูก และ/หรือสมาชิกในครอบครัว และ (7) มีโอกาสสร้างที่ยืนในสังคม
ทั้งนี้ รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล นายกสมาคมนักวิจัยประชากรและสังคม ให้ข้อเสนอแนะว่าควรนำ สาธารณสุขมูลฐาน มาประยุกต์ใช้ คือการปฏิรูประบบสุขภาพเพื่อสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เหมาะกับในเรือนจำซึ่งเป็นชุมชนปิด เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการประสานงานข้ามหน่วยงาน และการส่งเสริมสุขภาพดีไม่ใช่ซ่อมสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดเป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนสู่เรือนจำสุขภาวะ.-สำนักข่าวไทย