ป้ายหาเสียงใส่รูปได้เฉพาะผู้สมัคร- หัวหน้าพรรค- คนชิงนายกฯ

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 19 ธ.ค.- กกต.พร้อมรับข้อเสนอพรรคการเมือง เพื่อออกระเบียบที่จะใช้เลือกตั้ง ส.ส.  ชี้ป้ายหาเสียงใส่รูปได้แค่ผู้สมัคร หัวหน้าพรรค คนชิงนายกฯ และสมาชิกเท่านั้น พร้อมตั้งวอล์รูมควบคุมการใช้สื่อโซเชียล อนุญาตใช้หุ่นยนต์หาเสียง ปิดตายข้อเสนอเบอร์เดียวทั้งประเทศ ย้ำเปิดรับผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งที่มาตามแนวทาง กกต.  


ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับ 77 พรรคการเมือง เรื่องค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ป้ายหาเสียง และการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ว่า เรื่องค่าใช้จ่ายเลือกตั้งที่ประชุมเสนอเรื่องการกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายผู้สมัครแบบแบ่งเขต ตั้งแต่ 2 แสน จนถึง 2 ล้านบาท โดยการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายสูงสุดเป็น 2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 แสนบาท เพราะคำนึงจากค่าครองชีพที่เปลี่ยนไป และคำนึงถึงความเป็นธรรมในกรณีพรรคเล็กด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในระบบบัญชีรายชื่อ หรือ ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรค ที่กำหนดตามจำนวนผู้สมัครและเป็นไปตามกรอบกฎหมาย 

ประธาน กกต. กล่าวว่า เรื่องสถานที่ ขนาด จำนวนป้ายหาเสียง และสถานที่ปิดประกาศ กกต.จะพิจารณาให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว ซึ่งบางพรรคเห็นว่าจำนวนแผ่นป้ายหาเสียงควรลดลง และยังได้หารือถึงเรื่องรถหาเสียง หรือโมบายยูนิต รถเคลื่อนที่หาเสียง รถสี่ล้อ และรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง กกต.จะนำเรื่องป้ายหาเสียงที่ปิดในยานพาหนะเคลื่อนที่ไปพิจารณา รวมถึงข้อเสนอที่พรรคการเมืองเห็นว่านอกจากสถานที่สาธารณะที่ กกต.กำหนดให้ติดป้ายแล้ว ควรจะอนุญาตให้ติดป้ายที่ศูนย์ประสานงานพรรคการเมืองได้ด้วย ซึ่งการที่ กกต.กำหนดขนาดของป้ายหาเสียงเป็นไปตาม มาตรา 83 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. 


นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนการหารือเรื่องหาเสียงของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางพรรคการเมืองและสื่อมวลชน ได้สอบถามหลายเรื่อง เช่น การหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ครอบคลุมแค่ไหน การใช้หุ่นยนต์หาเสียง ซึ่ง กกต.อนุญาตให้ใช้หุ่นยนต์หาเสียงได้และเชื่อว่าจะเป็นสีสันในการเลือกตั้งครั้งนี้  นอกจากนี้พรรคการเมืองยังเสนอ วิธีการให้แจ้งเกี่ยวกับการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ การควบคุม การป้องกันการใช้แอ๊คเค้าท์ปลอมเพื่อมาใส่ร้ายจะดำเนินการอย่างไร การขอให้ กกต.ตั้งคณะทำงานเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถแจ้งเรื่องต่าง ๆ ได้โดยตรง ขอให้ กกต.ชี้แจงให้ชัดเจนถึงการหาเสียงอิเล็กทรอนิกส์ และให้มีวอร์รูมเพื่อดูแลและชี้แจงมีการใส่ร้าย รวมทั้งการจัดงบให้ความรู้เรื่องการหาเสียงอิเล็กทรอนิกส์ให้กับทุกพรรคการเมือง 

ประธาน กกต. กล่าวว่า ข้อเสนอต่าง ๆ เหล่านี้จะนำไปประกอบการตัดสินใจของ กกต.ในการออกระเบียบต่าง ๆ คาดว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนปีใหม่ เบื้องต้นยังมีระเบียบที่ค้างการพิจารณา 8 ฉบับ  เรื่องวอร์รูม กกต.จะเร่งพิจารณาประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่นอกจากจะติดตามการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียแล้ว ยังอาจใช้วอร์รูมดังกล่าวสำหรับแจ้งเหตุทุจริตด้วย ส่วนข้อเสนอของสื่อที่ขอให้ กกต. เสนอไปยัง คสช. ยกเลิกคำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเสนอข่าวในช่วงการเลือกตั้ง นั้น สื่อและพรรคการเมืองสามารถแจ้ง คสช.ได้เอง

นายอิทธิพร ยังกล่าวว่า  ในที่ประชุมวันนี้ไม่มีการเสนอเรื่องเบอร์เดียวทั่วประเทศ ดังนั้น กกต.จะยึดตามมติที่ได้พิจารณา รวมทั้งเรื่องบัตรเลือกตั้ง และไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.ที่จะไปขอให้ คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 พิจารณาเรื่องเบอร์เดียวทั่วประเทศ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา เราไม่พิจารณา กกต.มีหน้าที่จะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ


ประธาน กกต. ยังกล่าวถึงป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ป้ายหาเสียงสามารถจะใส่รูปผู้สมัคร หัวหน้าพรรค และบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกพรรค ซึ่งบุคคลที่ไม่เกี่ยวไม่สามารถนำรูปมาใส่ในป้ายหาเสียงได้ 

นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงการขอเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งขององค์กรระหว่างประเทศ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ กกต.ดำเนินการมาตลอดตั้งแต่ปี 2546 จะต้องเข้ามาตามแนวทางของ กกต. ที่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ ไม่มีเหตุที่จะต้องยุติแนวทางปฏิบัติที่เคยทำมา กกต.จะทำต่อไป และจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งท่าทีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีผลต่อ กกต. 

“การสังเกตการณ์การเลือกตั้ง การเสนอรายงานที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราไม่ได้มองเรื่องศักดิ์ศรี เพราะผมเป็นคนจัดการเลือกตั้งไม่มีแนวทางเรื่องการห้ามมาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ภาวะทางการเมืองไม่ใช่เรื่องรับผิดชอบของ กกต. จึงไม่ปิดกั้นการเข้ามาตามแนวทางที่เราปฏิบัติ” นายอิทธิพร กล่าว และว่าขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จึงยังไม่มีองค์กรใดขอเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง 

เมื่อถามว่า อียู ซึ่งเคยไปดูการเลือกตั้งในประเทศอื่นแล้วมาเสนอรายงานวิพากษ์วิจารณ์ นายอิทธิพร กล่าวว่า การเข้ามาต้องดูขนาดและจำนวน ซึ่งองค์กรที่เข้ามาต้องไม่มีเงื่อนไขและพร้อมทำตามระเบียบ  อะไรที่มากกว่านั้นจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน