รมว.เกษตรฯ ยืนยันไทยไม่มีนโยบายจำกัดส่งออกยางพารา

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค. – รมว.เกษตรฯ ยืนยันไทยไม่มีนโยบายจำกัดการส่งออกยางพาราปี 62  เนื่องจากราคามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใน 2 สัปดาห์จากนโยบายส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ และเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการใช้ยาง แม้โครงการช้อปช่วยชาติจะสิ้นสุดลง


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงเกษตรฯ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ผู้ช่วยทูตฝ่ายการเกษตรทุกประเทศว่า ตามที่มีข่าวลือว่าไทยจะเข้าร่วมมาตรการจำกัดการส่งออกยางพารา (ATSF) ตามที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียเสนอในที่ประชุมสภาไตรภาคียาง (International Tripatite Rubber Concil-ITRC) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กระทรวงเกษตรฯ และ กยท.ยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายจำกัดการส่งออกยางพาราในช่วงต้นปี 2562 หรือช่วงเวลาอื่น ๆ แต่อย่างใด

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ราคายางพาราปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศทั้งโครงการทำถนน 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดสรรงบประมาณสะสมมาดำเนินการประมาณ 800,000 หมู่บ้าน/ตำบล จะดูดซับน้ำยางออกจากระบบตลาดได้ถึง 1.4 ล้านตัน ขณะเดียวกันยังมีโครงการช้อปช่วยชาติที่บริษัทผู้ผลิตล้อยางทำสัญญารับซื้อยางพาราจาก กยท. หรือจากสถาบันเกษตรกรที่ กยท.รวบรวมไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตทั้งล้อยางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน อีกทั้งกระทรวงเกษตรฯ กำลังหามาตรการเพิ่มการใช้ยางในประเทศส่งเสริมการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทำให้ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ราคายางรมควันอยู่ที่กิโลกรัมละ 39.79 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงวันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 43.19 บาท เพิ่มขึ้น 3.40 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 8.5 อีกทั้งเมื่อ อปท.ทั่วประเทศเริ่มก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพารา ซึ่งส่วนใหญ่แจ้งความจำนงว่าจะสร้างถนนที่มีระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ปริมาณการใช้ยางจะเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ราคายางพาราปรับสูงขึ้นอีก


ทั้งนี้ มีรายงานจาก กยท.ว่าไทยเป็นผู้ส่งออกยางพาราอันดับ 1 ของโลก มียอดการส่งออกปีละ 4.7 ล้านตัน นอกจากนี้ แนวโน้มการใช้ยางธรรมชาติของโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นทั้งการใช้เป็นส่วนผสมทำถนนในหลายประเทศ เนื่องจากยางธรรมชาติดีต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เป็นพิษเหมือนแอสฟัลท์ ซึ่งเป็นส่วนเหลือจากการกลั่นน้ำมันดิบ อีกทั้งสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาชะลอไป ส่งผลให้ความต้องการยางพาราไปเป็นวัตถุดิบผลิตล้อยางและผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นสูงขึ้น จะส่งผลให้สต๊อกยางของโลกลดลง ราคาตลาดโลกจะปรับขึ้นอีก จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการจำกัดการส่งออกแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง