สปสช.14 ธ.ค.-สปสช. แจงสิทธิบัตรทองไม่มีหมดอายุ เป็นสิทธิสวัสดิการรัฐด้านสุขภาพ ดูแลคนไทยตั้งแต่เกิดจนตาย ปัจจุบันใช้บัตรประชาชนหรือสูติบัตรแทนไม่ต้องใช้บัตรทองแล้ว โดยกรณี ‘เด็กขายไข่นก’ ใช้สิทธิบัตรทองรับการรักษาภาวะตาเป็นฝ้าได้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
จากกรณีที่มีการนำเสนอเรื่องราวของเด็กชายขายไข่นกที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช โดยใช้ชื่อว่า “น้องแมน” ผ่านโลกโซเชียล ซึ่งมีอาการตาเป็นฝ้า โดยมีการระบุหนึ่งในสาเหตุที่น้องแมนไม่ไปหาหมอรักษาเพราะบัตรหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองหมดอายุนั้น
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวชี้แจงว่า สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทองเป็นสิทธิการรักษาพยาบาลของคนไทยทุกคน โดยประชาชนทุกคนจะได้รับสิทธิตั้งแต่แรกเกิด เมื่อมีการแจ้งเกิดและลงทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและได้รับสิทธิดังกล่าวดูแลไปจนตลอดชีวิต ยกเว้นกรณีผู้ที่มีหลักประกันสุขภาพอื่นรองรับ อาทิ ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ เป็นต้น โดยผู้มีสิทธิสามารถเข้ารับบริการยังหน่วยบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนหน่วยบริการประจำ
ทั้งนี้ สิทธิบัตรทองที่ประชาชนได้รับนี้ไม่มีการกำหนดวันหมดอายุ เนื่องจากเป็นสวัสดิการจากรัฐบาลเพื่อดูแลประชาชนด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนทุกคนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขภายใต้สิทธิประโยชน์บัตรทอง
อย่างไรก็ตามกรณีนี้อาจเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากในช่วงแรกของการดำเนินโครงการบัตรทองได้มีการออกบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้กับประชาชนเพื่อแสดงสิทธิในการเข้ารับบริการ โดยรายละเอียดในบัตรมีการระบุถึงวันบัตรหมดอายุ แต่จากการพัฒนาระบบสาระสนเทศและมีการเชื่อมต่อข้อมูลกับบัตรประชาชนแล้ว บัตรดังกล่าวจึงได้ยกเลิกไป โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการเข้ารับบริการ และในกรณีที่เป็นเด็กใช้เพียงสูติบัตรหรือใบเกิดเท่านั้น
“กรณีของน้องแมนจึงไม่ใช่บัตรทองหมดอายุและสามารถเข้ารับการรักษาได้ยังหน่วยบริการได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้ดูแล ซึ่ง สปสช.ขอชี้แจงและทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน เพราะหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน” โฆษก สปสช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย