แพทย์แนะวัณโรครักษาได้ หากดูแลตนเอง-ทานยาต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก แนะวัณโรคสามารถรักษาให้หายได้หากดูแลตนเอง และรับประทานยาต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง หากพบว่ามีอาการข้างเคียงจากการใช้ยา หรือมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันที


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไมโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส วัณโรคสามารถเป็นได้ทุกส่วนของอวัยวะทั่วร่างกาย และบริเวณที่พบการติดเชื้อวัณโรคมากที่สุดก็คือปอด เชื้อวัณโรคติดต่อผ่านทางระบบหายใจ โดยการแพร่เชื้อด้วยการไอ จาม ละอองฝอยเสมหะที่ออกมาจากผู้ป่วยที่มีเชื้อวัณโรคในปอด กระจายอยู่ในอากาศและตกลงสู่พื้น โดยผู้ที่สูดหายใจรับเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้มีโอกาสติดเชื้อและป่วยเป็นวัณโรคได้ นอกจากการติดเชื้อที่ปอดแล้ว เชื้ออาจจะกระจายไปส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ เช่น สมอง กระดูก ต่อมน้ำเหลือง ไต ผิวหนัง อาการของวัณโรคจะมีอาการไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ มีไข้ต่ำ ๆ อาจมีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง ผอมลง เหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอก หากเป็นนาน ๆ อาจไอมีเลือดปนออกมา หากพบว่ามีอาการไอติดต่อกันนานเกิน 2-3 สัปดาห์ ไอแห้งหรือมีเสมหะปนเลือด หรืออาศัยอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคหรือเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายไม่แข็งแรง เช่น เบาหวาน ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยการเอกซเรย์ดูความผิดปกติของปอด ตรวจเสมหะเพื่อหาเชื้อวัณโรค ซักประวัติ และตรวจร่างกาย

นพ.เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ป่วยเป็นวัณโรคสามารถรักษาให้หายได้โดยการรับประทานยาต่อเนื่องตามแพทย์สั่งอย่างน้อย 4 ชนิด เป็นระยะเวลา 6 เดือน มาตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ระหว่างรับประทานยารักษาวัณโรค โดยการรักษาด้วยการใช้ยาสามารถมีอาการข้างเคียงได้บ้าง เช่น เป็นตับอักเสบ มีผื่นขึ้นตามตัว ผิวหนังเป็นรอยช้ำ ตัวเหลือง ตาเหลือง คลื่นไส้ อาเจียน สายตา ฝ้าฟาง มองไม่ชัดเจน หูอื้อ เดินเซเสียการทรงตัว หากเกิดปัญหาจากการใช้ยาอย่าพึ่งหยุดยา หรือควรรีบไปพบแพทย์เพื่อปรับการใช้ยา หรือปรับชนิดของยาเพื่อการใช้ยาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม


สำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการรักษาหรือพึ่งเริ่มรับประทานยาได้ 2 สัปดาห์ ควรแยกห้องนอน หลีกเลี่ยงไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาไอ จาม บริเวณที่อยู่อาศัยควรเปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก แสงแดดส่องถึง ไม่บ้วนเสมหะ หรือน้ำลายลงพื้น รับประทานยาให้ครบทุกเม็ดทุกมื้อตามแผนการรักษาของแพทย์ และถ้าหากมีอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์ทันที. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้