เม็กซิโกซิตี 11 ธ.ค.- เม็กซิโกจะลงทุนกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 984,860 ล้านบาท) ในรัฐยากจนทางใต้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจในภูมิภาคอันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการยับยั้งผู้อพยพ
นายมาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกกล่าวต่อที่ประชุมว่าด้วยคนเข้าเมืองที่เมืองมาราเกชของโมร็อกโกว่า รัฐบาลเม็กซิโกจะลงทุนพร้อมกับปรับเปลี่ยนนโยบายขนานใหญ่ที่เชื่อว่าจะสามารถหยุดยั้งผู้อพยพได้ดีกว่าการใช้มาตรการควบคุมเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าการลงทุนดังกล่าวจะนำเงินมาจากที่ใดหรือจะนำไปใช้อย่างไร และจะปรับเปลี่ยนนโยบายใดบ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้อพยพที่พำนักอยู่ในเม็กซิโกขณะนี้เป็นเรื่องน่าเสื่อมเสีย เม็กซิโกจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีก
รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกเคยเผยว่า เม็กซิโกจะลงทุนในรัฐทางใต้กว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 656,560 ล้านบาท) และคิดว่าประเทศเพื่อนบ้านทางใต้อย่างเอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลาและฮอนดูรัสควรลงทุนพอ ๆ กัน แต่ได้กล่าวในที่ประชุมที่โมร็อกโกซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติว่า ทั้งสามประเทศได้เสร็จสิ้นการประเมินในเบื้องต้นแล้วและจะเสนอโครงการราวต้นปีหน้า
ผู้อพยพจากอเมริกากลางเดินเท้าจากฮอนดูรัสมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ฝ่าแดดฝ่าฝนมุ่งขึ้นทางเหนือหวังเข้าไปมีชีวิตใหม่ในสหรัฐ ผู้อพยพราว 6,000 คนกำลังพำนักกันอย่างแออัดในเมืองตีฮัวนา ทางเหนือของเม็กซิโกที่ติดกับสหรัฐ ขณะที่คนในพื้นที่ไม่พอใจ.- สำนักข่าวไทย