วอชิงตัน 5 ธ.ค.- ผู้บริหารเดมเลอร์ โฟล์กสวาเกน และบีเอ็มดับเบิลยู สามบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีแสดงความคาดหวังในแง่ดีต่อเรื่องที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขู่จะเก็บภาษียานยนต์นำเข้า หลังจากเข้าพบทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ
ทำเนียบขาวแถลงหลังการเข้าพบว่า ประธานาธิบดีขอให้ผู้ผลิตยานยนต์เพิ่มการผลิตในสหรัฐซึ่งเป็นฐานผลิตสำคัญของบริษัทเหล่านี้อยู่แล้ว ประธานาธิบดีมีวิสัยร่วมกับผู้ผลิตยานยนต์ทุกแห่งเรื่องผลิตในสหรัฐและสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจให้มากขึ้น ขณะที่นายดีเทอร์ เซตเชอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เดมเลอร์เผยว่า พูดได้ว่าโอกาสที่สหรัฐจะเก็บภาษียานยนต์นำเข้าจากยุโรปลดลงแล้ว เพราะเกิดบรรยากาศที่สร้างสรรค์และน่าพอใจ เช่นเดียวกับนายแฮร์เบิร์ต ดีส ซีอีโอ ซีอีโอโฟล์กสวาเกนที่เชื่อว่า มีความคืบหน้าก้าวใหญ่ที่จะเลี่ยงไม่ให้สหรัฐเก็บภาษีเพิ่มเติม ส่วนนายนิโกลาส ปีเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) บีเอ็มดับเบิลยูกล่าวว่า การหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ แต่หน้าที่ในการกำหนดนโยบายการค้าสากลยังคงเป็นของสถาบันการเมืองที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งหมายความสหภาพยุโรป (อียู) คือผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
สหรัฐและอียูประกาศสงบศึกเมื่อเดือนกรกฎาคมเรื่องจะเก็บภาษีตอบโต้กัน หลังจากทรัมป์ขู่จะเก็บภาษียานยนต์นำเข้าจากยุโรปโดยอ้างเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐกล่าวก่อนผู้บริหารทั้งสามเข้าพบทรัมป์ว่า เป้าหมายของการเข้าพบคือการลดยอดขาดดุลการค้าที่สหรัฐขาดดุลให้แก่ธุรกิจยานยนต์และอะไหล่ของเยอรมนีถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 982,346 ล้านบาท) คิดเป็นเกือบครึ่งของที่สหรัฐขาดดุลการค้าให้อียูทั้งหมด 66,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.16 ล้านล้านบาท).-สำนักข่าวไทย