ซีอีโอ

ปารีส 29 ส.ค.- ศาลฝรั่งเศสอนุญาตให้ประกันตัวนายปาเวล ดูรอฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้งเทเลแกรม (Telegram) แอปพลิเคชั่นรับส่งข้อความที่มีการเข้ารหัส ศาลฝรั่งเศสเปิดการสอบสวนนายดูรอฟ วัย 39 ปีอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ เรื่องเทเลแกรมพัวพันกับแก๊งอาชญากร แต่ได้อนุญาตให้ประกันตัว โดยกำหนดให้วางเงินประกันจำนวน 5 ล้านยูโร หรือราว 189 ล้านบาท ต้องรายงานตัวต่อตำรวจสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และห้ามเดินทางออกนอกฝรั่งเศส อัยการเผยว่า ผู้พิพากษาชี้ว่ามีมูลที่จะไต่สวนนายดูรอฟอย่างเป็นทางการในทุกข้อหาที่ทำให้เขาถูกจับกุมใกล้กับสนามบินในกรุงปารีสเมื่อเย็นวันที่ 25 สิงหาคม ฐานตกเป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดหลายข้อหาทั้งการฟอกเงิน  ค้ายาเสพติด รวมทั้งหาประโยชน์จากภาพถ่ายการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก การควบคุมตัวนายดูรอฟจุดกระแสถกเถียงเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกควรมีจุดสิ้นสุดที่ใด และการบังคับใช้กฎหมายควรเริ่มต้นเมื่อใด อีกทั้งยังตอกย้ำเรื่องรัฐบาลประเทศต่าง ๆ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับเทเลแกรม ซึ่งมีผู้ใช้งานเกือบ 1,000 ล้านคน เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของทางการที่กล่าวหาว่ามีการทำผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม นายดูรอฟมี 4 สัญชาติ คือ รัสเซีย, เซนต์คิตส์และเนวิสในทะเลแคริบเบียน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฝรั่งเศส นิตยสารฟอร์บส์จัดอันดับให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 120 ของโลก มีทรัพย์สินมูลค่า 15,500 […]

เกิดเหตุประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ (CEO) ของบริษัทรับฝากคริปโทเคอร์เรนซีเกาหลีใต้ ถูกชายคนหนึ่งบุกแทงที่บริเวณลำคอกลางศาลขณะกำลังถูกพิจารณาคดีฉ้อโกง

นายพาเวล ดูรอฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย-ฝรั่งเศส ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแอปพลิเคชั่นส่งข้อความแชต “เทเลแกรม” (Telegram) ถูกจับกุมที่สนามบินบูร์เฌต์ (Bourget) ชานกรุงปารีส

วอชิงตัน 26 มี.ค.- คณะผู้บริหารของบริษัทโบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐลาออกทั้งชุด เป็นการปรับเปลี่ยนการบริหารหลังจากเครื่องบินโบอิงเกิดปัญหาบ่อยครั้งในช่วงไม่นานมานี้ โบอิงประกาศว่า นายเดฟ แคลฮูนจะลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ในสิ้นปีนี้  ขณะที่นายสแตน ดีล ประธานและซีอีโอฝ่ายเครื่องบินพาณิชย์ของโบอิงก็ลาออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกันและการลาออกมีผลโดยทันที ขณะที่การลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารของนายแลร์รี่ เคลเนอร์ จะมีผลหลังการประชุมใหญ่ประจำปีของบริษัทในเร็วๆ นี้ นายแคลฮูน วัย 66 ปี ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตสาหกรรมมานาน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของโบอิงเมื่อเดือนมกราคม 2563 ในช่วงที่โบอิงกำลังประสบปัญหายอดการผลิตตกต่ำจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19  ประกอบกับเครื่องบินโบอิงมีปัญหาด้านความปลอดภัยหลายต่อหลายครั้ง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความเชื่อมั่น โดยเหตุการณ์แผงปิดประตูเครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ของสายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์เกิดหลุดกลางอากาศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของบริษัท โบอิงระบุว่า บริษัทได้เริ่มดำเนินการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งซีอีโอคนใหม่แล้ว  ส่วนคนที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดคนใหม่คือนายสตีฟ โมลเลนคอปฟ์  ขณะที่นางสเตฟานี โป๊ป จะมารับตำแหน่งประธานและซีอีโอฝ่ายเครื่องบินพาณิชย์.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เรนตัน 10 ม.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของโบอิง บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐยอมรับความผิดพลาดเหตุแผ่นประตูหลุดกลางอากาศ และจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อีก นายเดวิดหรือเดฟ แคลฮูน ซีอีโอวัย 66 ปี กล่าวกับพนักงานที่โรงงานผลิตเครื่องบินโบอิง 737 ในเมืองเรนตัน รัฐวอชิงตันว่า เขาตกใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ 9 ของสายการบินอะแลสกาแอร์ไลน์เมื่อวันที่ 5 มกราคมตามเวลาสหรัฐ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ยอมรับความผิดพลาด โบอิงจะต้องยอมรับเรื่องนี้อย่างเต็มตัวและดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส บริษัทจะสร้างความมั่นใจว่า หลังจากนี้เครื่องบินทุกลำจะขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความปลอดภัยอย่างแท้จริง ซีอีโอของโบอิงใช้โอกาสนี้ยกย่องนักบินของอะแลสกาแอร์ไลน์ที่นำเครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัย ผู้โดยสาร 171 คนและลูกเรือ 6 คนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และยกย่องอะแลสกาแอร์ไลน์ที่สั่งจอดเครื่องบินรุ่นนี้อย่างรวดเร็วทั้งที่เป็นเรื่องลำบากใจ ทางการสหรัฐสั่งให้เครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ 9 จำนวนมากกว่า 170 ลำจอดเป็นวันที่ 4 แล้ว อะแลสกาแอร์ไลน์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ซึ่งเป็น 2 สายการบินของสหรัฐที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้ตรวจพบว่า เครื่องบินที่จอดอยู่มีสลักเกลียวหลวมหลายลำ ราคาหุ้นของโบอิงร่วงลงร้อยละ 1.4 ในวันอังคาร ขณะที่อะแลสกาแอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบิน 109 เที่ยว คิดเป็นร้อยละ […]

อาลีบาบา (Alibaba) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนประกาศวันนี้ว่า จะเปลี่ยนตัวประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปยอดนิยมเผยว่า จะทุ่มเงินลงทุนจำนวนมหาศาลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวกำลังเติบโตอย่างดี