กพร.ยันไทยมีหินก่อสร้างพอใช้เกิน 30 ปี

กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – กพร.ยืนยันมีหินก่อสร้างเพียงพอใช้เกิน 30 ปี ล่าสุดมีผู้ประกอบเหมืองหินเปิดทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 300 ราย


นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมฯ กำหนดแหล่งหินเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 300 แหล่ง มีปริมาณสำรองรองรับความต้องการของประเทศได้ไม่น้อยกว่า 30 ปี และก่อนที่พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 จะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 กระทรวงอุตสาหกรรมอนุญาตประทานบัตรและต่ออายุประทานบัตรเหมืองหิน เพื่อการก่อสร้างไปแล้วจำนวนหนึ่ง ทำให้ปัจจุบันมีผู้ประกอบเหมืองหินเปิดดำเนินการทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 300 ราย สามารถรักษากำลังการผลิตหินได้อย่างต่อเนื่อง 


อย่างไรก็ตาม ในระยะ 1 ปีเศษที่ผ่านมามีคำขอประทานบัตรหรือและคำขอต่ออายุประทานบัตรเหมืองหินเพื่อการก่อสร้างที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ประมาณ 30 ราย คำขอประทานบัตรดังกล่าวส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษต้องมีเหตุผลความจำเป็นอย่างยิ่งทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและการเห็นชอบให้ใช้พื้นที่ลุ่มน้ำจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรมจึงจะเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการอนุญาตประทานบัตร

ส่วนบางจังหวัดขาดแคลนหิน เพราะประทานบัตรสิ้นอายุและคำขอต่ออายุประทานบัตรอยู่ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาตามกระบวนการนั้น  กพร.อยู่ระหว่างดำเนินการขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เพื่อขอความเห็นชอบจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะรัฐมนตรีก่อนการพิจารณาอนุญาตประทานบัตร


นายวิษณุ กล่วว่า ภายหลังจากพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้กระทรวงอุตสาหกรรมและ กพร.ได้ดำเนินการด้านต่าง ๆ เพื่อให้กระบวนการอนุญาตประทานบัตรและต่ออายุประทานบัตรภายใต้พระราชบัญญัติแร่ฉบับใหม่มีความต่อเนื่องโดยเร็ว  ซึ่งที่ผ่านมาจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่และผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 โดยแผนแม่บทฯ ดังกล่าวได้มีการกำหนดเขตแหล่งแร่ เพื่อการทำเหมืองสำหรับใช้ในการอนุญาตประทานบัตรแล้ว รวมทั้งได้มีการจัดทำอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาอนุญาต ได้แก่ การจัดรับฟังความคิดเห็นของชุมชน การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การประเมินความเหมาะสมของเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำเหมืองเพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาต ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จและแจ้งให้ผู้ประกอบการไปดำเนินการแล้ว หากการดำเนินการต่าง ๆ เสร็จ กพร.จะสามารถพิจารณาอนุญาตประทานบัตรและต่ออายุประทานบัตรได้ภายในเวลาอีกประมาณ 2 เดือน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง