“รัดเกล้า” แจงไม่ว่าจะมีแร่ลิเธียมเท่าไหร่ ล้วนสร้างมั่นคงประเทศ

ทำเนียบฯ 20 ม.ค.-“รัดเกล้า” แจง กพร. ค้นพบแร่ลิเธียม​ 14.8 ล้านตัน ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนไทย เพราะไม่ว่าในปริมาณแร่ดังกล่าวจะมีแร่ลิเธียมอยู่เท่าไหร่ การมีทรัพยากรแร่ที่สำคัญในประเทศ ล้วนสร้างความมั่นคงให้ประเทศ

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ค้นพบทรัพยากรแร่ แร่ลิเธียม​ นับเป็นที่สนใจอย่างมากของสังคม ล่าสุด​เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2567 กพร. ได้แจงข้อมูลชุดใหม่ เพื่อขยายความที่คลาดเคลื่อนบางประการ และช่วยสร้างความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนเกี่ยวกับผลการสำรวจแหล่งลิเธียมในประเทศไทย โดยพบแร่ในพื้นที่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มี​แหล่งลิเธียมที่มีศักยภาพอยู่ 2 แหล่งด้วยกัน คือแหล่งเรืองเกียรติ และแหล่งบางอีตุ้ม​


สำหรับในแหล่งบางอีตุ้มนั้น ยังอยู่ระหว่างการสำรวจขั้นรายละเอียด เพื่อประเมินปริมาณสำรองอยู่ ส่วนแหล่งเรืองเกียรติ ได้มีการประเมินปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่ (Mineral Resource) ประมาณ 14.8 ล้านตัน แร่ที่พบนั้นเป็นแร่เลพิโดไลต์ (Lepidolite) ที่มีความสมบูรณ์ของลิเธียมออกไซด์เฉลี่ย 0.45% หากมีการอนุญาตทำเหมืองและมีการออกแบบแผนผังอย่างเหมาะสม คาดว่าสามารถนำลิเธียมมาพัฒนาเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาด 50 kWh ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คัน 

อย่างไรก็ตามในการนำเสนอข้อมูลก่อนหน้านี้ โดยเปรียบเทียบกับปริมาณสำรอง ของต่างประเทศนั้น มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อแสดงถึงข่าวดีของประเทศไทย กับการมีแหล่งวัตถุดิบสำคัญที่สามารถช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ และยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะมีปริมาณแร่ลิเธียม เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากนี้ กพร. ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า คำว่า “ทรัพยากรแร่” หรือ Mineral Resource นั้นหมายถึงปริมาณทางธรณีของทรัพยากรแร่ ซึ่งไม่ได้หมายถึงปริมาณทรัพยากรโลหะลิเธียมแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการค้นพบ “แร่ดิบ” ที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีแร่สำคัญคือ “แร่ลิเธียม” อยู่ในนั้นด้วย


“ข้อมูลของ กพร. ที่ระบุว่า ไทยสำรวจทรัพยากรแร่ หรือ Mineral Resource กว่า 14.8 ล้านตัน ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยทุกคน เพราะไม่ว่าในปริมาณแร่ดังกล่าวจะมีแร่ลิเธียมอยู่เท่าไหร่ การมีทรัพยากรแร่ที่สำคัญในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแร่ลิเธียม แร่โซเดียม หรือแร่โปรแตส ล้วนมีส่วนสำคัญให้การสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ เพราะเป็นการช่วยลดการนำเข้าและเพิ่มการพึ่งพิงตนเองให้กับคนไทย กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงพร้อมให้การสนับสนุนและรัดกุมกระบวนการนำแร่ขึ้นมาใช้ประโยชน์ และรัฐบาลเองก็ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามนโยบาย EV 3.5 ที่จะผลักดันไทยเป็นฮับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค และเป็นฐานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพื่อเติมเต็มความต้องการของอุตสาหกรรมดังกล่าวที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอีกด้วย” นางรัดเกล้า กล่าว.-515.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว