“เท้ง” ยันไม่ได้เป็นนั่งร้านให้ “ภท.” ขยายอำนาจ

รัฐสภา18 ก.ย.-“เท้ง ณัฐพงษ์” ยัน ไม่ได้เป็นนั่งร้านให้ “ภูมิใจไทย” ขยายอำนาจ สร้างความแข็งแกร่ง หลังเนื้อหอม กลุ่มการเมืองไหลเข้าพรรค รับเห็นความผิดปกติ ขอใช้เวทีอภิปรายนโยบายเป็นดาบแรก พิสูจน์ผิด MOA หรือไม่อยู่ที่เสียงลงมติในสภา ชี้ หากผิดชัดพร้อมยื่นซักฟอก เลี่ยงตอบ ยังมั่นใจหรือไม่ว่าโหวต อนุทิน ไม่ผิด แต่เป็นตัวเลือกจำเป็น


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ขณะนี้มีกลุ่มการเมืองไหลเข้าไปที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นผลพวงมาจาก MOA พรรคประชาชนเป็นนั่งร้าน สร้างความแข็งแกร่ง และจะทำให้พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ว่า ยืนยันว่าเราไม่ได้ไปนั่งร้านให้กับพรรคภูมิใจไทย ทันทีที่รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เข้าปฏิบัติหน้าที่ ก็จะใช้ทุกกลไก ของสภาตรวจสอบเริ่มตั้งแต่การทานแรงนโยบายต่อรัฐสภา รายการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 หากมีเหตุที่ทำให้เชื่อได้ว่ารัฐบาลของนายอนุทิน ไม่ดำเนินการตาม MOA

เมื่อถามย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลพวงมาจาก MOA ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีความแข็งแกร่งขึ้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เร็วไป ที่จะประเมินแบบนั้นเพราะสุดท้าย สิ่งที่เราจะตัดสิน ว่าพรรคภูมิใจไทยละเมิด MOA หรือไม่ ต้องยึดตามการลงมติในสภา ซึ่งต้องดูว่าพรรคประชาชนจะดำเนินการอย่างไร เช่น การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการลงมติก็จะสะท้อนให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยได้ละเมิดข้อตกลงหรือไม่


เมื่อถามว่าได้ประเมินไว้หรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์กลุ่มการเมืองไหลเข้าไปอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็มีการประเมินไว้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เห็นตามหน้าสื่อก็อาจจะประเมินไม่ได้ การรวมขั้วรวมกลุ่มการเมือง บางครั้งก็อาจจะมีเรื่องของเก้าอี้รัฐมนตรี หรือตำแหน่งในฝ่ายบริหารที่ต้องต่อรองกัน แต่ตนยืนยันว่าพรรคประชาชนพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และยามว่าการจะละเมิดหรือไม่ละเมิดข้อตกลงก็อยู่ที่เสี่ยงในสภา ที่จะลงมติ

เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้พรรคประชาชนถูกตราหน้าว่าเป็นนั่งร้านให้กับพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ กล่าวยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ตนก็จะพยายามอธิบายและทำความเข้าใจกับสังคม และย้ำว่าพรรคประชาชนจะเป็นนั่งร้านให้หรือไม่ ก็อยู่ที่การทำหน้าที่ หากพรรคประชาชนทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อย่างเข้มแข็งและเต็มที่ ก็จะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นนั่งร้านให้กับ นายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่าหากนับจากเสียงการลงมติ พรรคประชาชนจะทำอย่างไรเพื่อเป็นการยับยั้งไม่ให้พรรคภูมิใจไทยละเมิด MOA นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนอาจจะยังตอบไม่ได้ชัดเจน แต่สิ่งที่ตอบได้ในตอนนี้คือจะใช้ทุกกลไกของสภาในการตรวจสอบ รัฐบาลตั้งแต่วันแรกส่วนจะยื่น ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ ก็จะมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่


เมื่อถามว่าตอนนี้เห็นความผิดปกติหรือการเปลี่ยนแปลงอะไรจาก MOA แล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการไหลเข้าของ กลุ่มการเมืองมายังพรรคภูมิใจไทย หรือมีรายงานข่าวว่ามีการเข้าไปกดดัน การทำคดีเขากระโดงและฮั้ว สว. นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นตามหน้าสื่อขณะนี้สิ่งแรกที่ พรรคประชาชนจะทำคือการอภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา หากเวทีนั้นไม่สามารถยับยั้ง หากรัฐบาลกระทำความผิด พรรคประชาชนก็พร้อมที่จะดำเนินการอย่างอื่นเพื่อเป็นอาวุธแรงมากขึ้น คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผลการลงมติก็จะเป็นตัวตัดสินว่าพรรคภูมิใจไทยละเมิดข้อตกลงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามใน MOA ก็มีข้อตกลงอื่นๆ ตนมองว่าขณะนี้ยังเป็นทิศทางที่ดีสำหรับประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภาพรวมก็ยังเดินไปในทิศทางที่ดี หรือการผ่านกฎหมายสำคัญหลายฉบับ การ ตัดสินใจของพรรคประชาชนเพื่อผลักดัน วาระที่ก้าวหน้าให้กับประเทศมุ่งหน้าสู่การยุบสภาและเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าเสียงในสภาของพรรคประชาชนก็สามารถกำกับทิศทางของสภาให้เดินหน้าไปสู่จุดหมายได้

ส่วนเสียงของพรรคประชาชนเพียงพรรคเดียวอาจจะไม่เพียงพออาจจะต้องอาศัยเสียงของพรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยกัน เพื่อให้การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านเป็นเอกภาพหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทย แต่พรรคที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลต้องมาเป็นพรรคฝ่ายค้านหมด การทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อาจจะไม่ต้องเป็นเอกภาพทั้งหมดเหมือนการทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล แต่การเดินหน้า ให้เป็นไปตามกรอบข้อตกลง MOA ก็ต้องขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยด้วย ถ้าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็ต้องเดินไปตามกรอบที่ตกลงไว้

ส่วนจะต้องมีการพูดคุยหรือหารือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่เพราะดูเหมือนว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยจะค้านกับพรรคประชาชนมากกว่ารัฐบาล นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคในการแสดงออก ตนไม่ขอแสดงความเห็นว่าพรรคเพื่อไทยทำถูกหรือผิดอย่างไร ทุกการกระทำประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

เมื่อถามว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ครม.ของนายอนุทินเป็นครม.บุรีรัมย์ นายณัฐพงษ์กล่าวว่าตนรับฟังเสียงสะท้อนและทุกความคิดเห็น แต่ขอให้หยุดการทำหน้าที่ของพรรคประชาชนตามกลไกของสภา ที่ผ่านมาการวางบทบาทของตนและพรรคประชาชนที่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว กับฝ่ายบริหาร แต่ยืนยันว่า ทันทีที่คณะรัฐมนตรีเข้าทำหน้าที่ ขอให้รอดูได้เลย ตนและพรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่แน่นอน และการที่กล่าวหาว่าพรรคประชาชนเป็นนั่งร้าน สนับสนุนนายอนุทินให้ขึ้นมาขยายอำนาจของตนเอง หรือไม่ก็ขอให้รอดูการทำหน้าที่และการลงมติในสภา

เมื่อถามว่าขณะนี้เห็นความผิดปกติหรืออะไรที่เสี่ยง ขัดต่อ MOA หรือไม่ เพราะขณะนี้ สังคมนำหน้าพรรคประชาชน มีข้อกังขามากมายโดยเฉพาะการเข้าไปกดดันหรือแทรกแซงการทำคดีเขากระโดงและ ฮั้ว สว. นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เข้าใจข้อห่วงใยกระแสสังคมที่เกิดขึ้น แต่การวิพากษ์วิจารณ์ก็เกิดขึ้นอยู่แล้วในทุกวัน ตนรับรู้รับทราบดี แต่การวางบทบาทของตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน อยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่าที่ผ่านมาทำไม ตนทุนต้องรักษาบทบาทไม่เข้าไปยุ่ง การจัดโผครม.และงดการออกความเห็น เพราะอยากให้เห็นว่าตนทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านจริงๆ และหากวันใดมีความชัดเจนว่ารัฐบาลเข้าสู่อำนาจ ตนก็จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่

เมื่อถามย้ำอีกว่าส่วนตัวเห็นเหมือนที่สังคมเห็น หรือไม่ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ยอมรับว่ามองเห็น และมีข้อห่วงใยเช่นเดียวกัน และพร้อมนำข้อห่วงใยเหล่านั้นมาใช้กลไกในสภา ในการตรวจสอบซักถามรัฐบาล ถ้ารัฐบาลตอบได้ไม่ดีพอก็คงไม่มีทางอื่น ก็ต้องใช้กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อตรวจสอบรัฐบาลให้เข้มข้นมากขึ้น

เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นพรรคเพื่อไทยก็โยนความผิดมาให้พรรคประชาชน นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่แต่ละพรรคจะมีความเห็นและวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ของกันและกัน แต่ก็ยังร่วมกันทำงานในสภาได้ตามปกติ แต่หากมีอะไรที่พาดพิง มาถึงและมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนและเพื่อนร่วมพรรคก็พร้อมที่จะชี้แจง

เมื่อถามว่าการตรวจสอบรัฐบาลจะพึ่งองค์กรอิสระอื่นๆอย่างเช่นศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คดีทุจริตหรือการกระทำผิดกฎหมาย ก็สามารถไปตามช่องทางเหล่านั้นได้ แต่ยืนยันว่าจะไม่ใช้กระบวนการนิติสงคราม เช่นข้อหาจริยธรรม ไปใช้ทำลายล้างทางการเมือง

เมื่อถามว่าวันนี้ยังเชื่อมั่นใช่หรือไม่ว่า เลือกไม่ผิดที่เลือกพรรคภูมิใจไทยมาเพื่อยุบสภา นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นตัวเลือกที่จำเป็นที่เราต้องเลือก เป็นตัวเลือกที่เรามองว่าเป็นทางออกของประเทศเท่าที่เราเห็นอยู่ ในตัวเลือกที่มีอยู่ในขณะนั้น การเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นประตูทางออกและลดความเสี่ยงที่สุด

เมื่อถามว่าวันนี้กับวันที่ตัดสินใจเลือกพรรคภูมิใจไทย กับสถานการณ์การที่เกิดขึ้นขณะนี้ยังมั่นใจว่าเลือกไม่ผิด นายณัฐพงษ์ ย้ำว่าเป็นการ ตัดสินใจที่ประเมิน อย่างรอบคอบ รอบด้านที่สุดแล้ว จะผิดจะถูกอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ของพรรคประชาชน และขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัว ของนักการเมืองคนอื่นๆตนไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่าการมีเจตนาเจตจำนงที่ดี ใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้อย่างเต็มที่ไม่อยู่นิ่งหรืออยู่เฉย เมื่อมองว่าประเทศอาจจะเดินหน้า ไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควร ก็เป็นภาระหน้าที่ของพรรคประชาชน ที่ได้รับอำนาจมาจากประชาชน แต่ยอมรับว่าทุกอย่างมีความเสี่ยง ซึ่งเราทราบดี ยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศเดินหน้าสู่ทางออก -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย