“สมคิด” เร่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนแสนล้านท้ายปี

กระทรวงคลัง 21 พ.ย.- รองนายกรัฐมนตรีเร่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนแสนล้าน หนุนเศรษฐกิจ 2 เดือนสุดท้าย คาดเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจ การส่งออกยังขยายตัวดี ผลักดันให้จีดีพีปี 61 เติบโตมากกว่าร้อยละ 4 



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  เป็นประธานประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจร่วมกับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 18 แห่ง ที่มีวงเงินลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อรับนโยบายเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2 เดือนสุดท้าย  เฉพาะในช่วงไตรมาส  4 ของปี 2561 เพื่อหวังให้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 เพราะมีแรงขับเคลื่อนทั้งการลงทุนรัฐวิสาหกิจ การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวท้ายปี และการส่งออกหลังจากเดือนตุลาคมยังขยายตัวต่อเนื่องถึงร้อยละ 8.7 จึงไม่มีปัจจัยน่าเป็นห่วง แม้จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวเพียงร้อยละ 3.3 หากไตรมาส 4 ผลักดันได้มากกว่าร้อยละ 3.5 จะทำให้ทั้งปีเติบโตมากกว่าร้อยละ 4 อย่างแน่นอน เพราะมีผลเชิงศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ อีกทั้งขณะนี้ต่างชาติได้ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจำนวนมากและการลงทุนโครงการสำคัญอีกหลายด้านมีความคืบหน้าไปมาก จึงทำให้เงินลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น 


ส่วนการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยผ่านมาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน 400 บาทต่อคนต่อเดือน ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือนกันยายน 2562 ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน สำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 220,000 คน เพื่อช่วยเหลือลดภาระให้คนชราและเงินบำเหน็จสำหรับผู้ได้รับไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือนนั้น แผนดังกล่าวได้ศึกษาแนวทางช่วยเหลือมานานเกือบปีแล้ว ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลได้ดูแลคนชราหลายด้าน และยังต้องช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อให้คนชราไม่ต้องถูกทอดทิ้งหรือเป็นภาระสังคม 

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2561 จำนวน 45 แห่ง วงเงิน 445,191 ล้านบาท เบิกจ่ายลงทุนสะสมถึงเดือนตุลาคม 339,279 ล้านบาท หรือร้อยละ 85 ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม จึงต้องเร่งรัดให้เป็นไปตามเป้าหมายร้อยละ 95 ของเงินลงทุนทั้งหมด หรือเฉลี่ย 50,000 ล้านบาทต่อเดือน รวม 2 เดือนนับแสนล้านบาท เพราะเงินลงทุนผ่านโครงการขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องเร่งรัดสัญญาการลงทุนสร้างรถไฟทางคู่ให้เสร็จปีนี้ และรัฐวิสาหกิจมีผลงานเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมายต้องหาทางเร่งรัดการลงทุน โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมจะเข้าไปติดตามอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ