รัฐสภา 14 พ.ย.- วิป สนช.เตรียมเชิญกรมทรัพย์สินฯ แจงปัญหาสิทธบัตรกัญชา หวั่น ต่างชาติชิงจดสิทธิบัตรตัดหน้าคนไทย
นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปสนช.เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ได้รับหลักการมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ซึ่งปลดล็อคให้นำกัญชาไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ตามที่สมาชิกสนช.ได้ร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายไปก่อนหน้านี้ โดยตามกำหนดเดิมวิปสนช.จะเสนอให้ประธานสนช.บรรจุระเบียบวาระเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ในวาระที่ 1 วันที่ 16 พ.ย. แต่มีเหตุขัดข้องทำให้ต้องเลื่อนวาระดังกล่าวออกไปก่อน
นายสมชาย กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เนื่องจากวิปสนช.ได้ทราบถึงข้อห่วงใยในกรณีที่มีบริษัทต่างชาติดำเนินการมาขอจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการนำกัญชาไปใช้ทางการแพทย์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ที่ประชุมวิปสนช.มีความเห็นว่าจำเป็นต้องเชิญอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญามาชี้แจงต่อวิปสนช.ในวันที่ 20 พ.ย.ก่อนที่สนช.จะบรรจุร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสนช.ต่อไป
เลขานุการวิปสนช. กล่าวว่า เท่าที่สนช.ส่วนใหญ่ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว มีความเห็นว่าปัจจุบันกัญชายังเป็นยาเสพติดต้องห้ามตามกฎหมาย จึงไม่สามารถเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่จะได้รับการคุ้มครองทางสิทธิบัตรตามกฎหมายได้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 9 (5) ของพ.ร.บ.สิทธิบัตรพ.ศ.2522 ที่กำหนดว่าการประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดี อนามัยหรือสวัสดิภาพของประชาชน จะไม่ได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.บ. ดังนั้น กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะต้องไม่รับการจดสิทธิบัตรดังกล่าวเอาไว้ และจำเป็นต้องเพิกถอนคำร้องขอยื่นจดสิทธิบัตรทันที
นายสมชาย กล่าวว่า สนช.เป็นห่วงว่าหากไม่ดำเนินการเพิกถอนการขอจดสิทธิบัตรออกไปก่อน เกรงว่าหากต่อไปเมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสนช.และมีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้ต่างชาติได้รับรองการจดสิทธิบัตร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการที่หน่วยงานภาครัฐหรือมหาวิทยาลัยจะทำการวิจัยค้นคว้าทางการแพทย์ เนื่องจากต้องไปขออนุญาตจากเจ้าของสิทธิบัตรที่เป็นต่างชาติก่อน.-สำนักข่าวไทย