กทม. 4 พ.ย.- จิตแพทย์ยกเคส เด็กน่านเป็นอุทาหรณ์หลังช็อกเพราะติดเกมหนัก ไม่กิน ไม่นอน ถือเป็น “ภาวะติดเกมขั้นรุนแรง” เตือนพ่อแม่อย่าปล่อยให้ลูกเล่นเกมนานเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน แนะตั้งข้อปฏิบัติ “3 ต้อง 3 ไม่”
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีเด็กอายุ 13 ปี ถูกห่ามส่งโรงพยาบาลน่าน หลังมีอาการปากสั่น ใจสั่น มือเท้าเย็น แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คาดการณ์ว่าเกิดจากเล่นเกมติดต่อกันเป็นเวลานานไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้รับประทานอาหาร และน้ำ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและช็อก ว่านี่เป็นภาวะขั้นรุนแรงของการติดเกม ซึ่งเป็นการเสพติดพฤติกรรม คล้ายกับการติดสารเสพติด ซึ่งการติดเกมนั้นทำให้สูญเสียการใช้ชีวิตประจำวัน เสียการเรียน เสียงาน ไม่กินไม่นอนกระทบสุขภาพ โดยเฉพาะปัจจุบันพบว่าเด็ก และวัยรุ่นมีการติดเกมมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่สมองส่วนควบคุมความคิดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้สมองส่วนอยากทำงานได้มากกว่า ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขกังวลมาก โดยเฉพาะตอนนี้มีเรื่องของอีสปอร์ตเข้ามา ทางกระทรวงและเครือข่ายจึงได้ประกาศเจตนารมณ์ในการปกป้องเด็กจากการติดเกม และมีข้อเรียกร้องให้พิจารณาควบคุมเรื่องของอีสปอร์ตต้องมีกติกาอย่างชัดเจน
นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า การเล่นเกมนั้นมีข้อปฏิบัติ คือ “3 ต้อง 3 ไม่”
3 ต้อง คือ 1.ต้องกำหนดเวลาเล่นไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน 2.ต้องตกลงโปรแกรมและเลือกประเภทเกมให้ลูก เช่น เกมบริหารสมอง ลดเกมที่เสี่ยงความก้าวร้าวอย่างการฆ่ากันยิงกัน พ่อแม่ต้องอยู่ด้วย 3.ต้องเล่นกับลูก เพื่อสอนให้คำแนะนำกันได้
ส่วน 3 ไม่ ได้แก่ 1.พ่อแม่ไม่เล่นเป็นตัวอย่าง 2.ไม่เล่นในเวลาครอบครัว และ 3.ไม่เล่นในห้องนอน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแต่ละครอบครัวมีภาระหน้าที่แตกต่างกัน บางบ้านอาจจะไม่สามารถอยู่ดูแลลูกๆ ได้ตลอด ดังนั้นครอบครัวที่มีปัญหาเรื่องเวลา อาจจะต้องมีการพูดคุยกับครู ว่าอาจจะมีการส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ เพื่อทดแทนการเล่นเกมได้หรือไม่
ส่วนคืบหน้าอาการล่าสุด น้องติดเกม ที่จังหวัดน่าน นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ น้องคนดังกล่าว ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วเมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) หลังจากรับการรักษามา 2 คืน ขณะนี้อาการทางกายดีขึ้น กลับบ้านไปแล้ว จากนี้จะเน้นการรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมกาย โดยทางจิตแพทย์ ส่วนการรักษามอาการสมาธิสั้น ของน้องไม่ได้เกิดจากเกม แต่โดยปกติคนสมาธิสั้นจะติดเกมง่ายกว่าคนปกติ การให้ยารักษาในสมาธิสั้นในเด็กเล็ก ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง แต่คนอายุมากขึ้น อาการจะค่อยๆดีขึ้น เน้นการควบคุมพฤติกรรมบำบัด ซึ่งครอบครัวต้องมีเวลา และมีส่วนร่วมแก้ไข ฝึกวินัย ให้กับเด็ก ตั้งกติกาการเล่น
เกมคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ในปัจจุบัน ต้องฝึกวินัย ควบคุมให้ได้ และการเลี้ยงของพ่อแม่ ต้องไม่ปล่อยให้เจอเกมเลย เรื่องนี้ส่งผลต่อการเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต น้องคนนี้เป็นเด็กมัธยม กำลังโต กำลังจะมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง โจทย์จะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ
อาการของน้องคนนี้ เบื้องต้นเริ่มจาก บ่นปวดหัว เวียนหัว ชาที่ลิ้น ชาตามตัว แขนขาอ่อนแรง เป็นลักษณะขาดน้ำ ขาดสารอาหาร อดนอนนานเป็นสัปดาห์ เป็นลักษณะของการอ่อนเพลียร่างกายไม่ไหว แต่ข่มใจหยุดเล่นไม่ได้ จะหลับก็ไม่หลับ เพลียเหนื่อยผสมกัน กินไม่เป็นเวลา พ่อแม่ไม่มีเวลาพาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น ติดแล้วพาไปทำกิจกรรมอื่นยาก ฉะนั้นพ่อแม่ต้องใจแข็ง.-สำนักข่าวไทย
