ขนส่งทางบกไฟเขียวแท็กซี่โอเคขึ้นค่าโดยสาร

กรุงเทพฯ 29 ต.ค. – กรมขนส่งทางบกไฟเขียวแท็กซี่โอเค  13,000 คัน ปรับค่าโดยสารขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 8 เตรียมชงคมนาคมสัปดาห์นี้


นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีและโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าการศึกษาโครงสร้างค่าโดยสารเหมาะสมและสอดคล้องต้นทุนค่าครองชีพ เพื่อให้คนขับรถแท็กซี่สามารถประกอบอาชีพได้ ว่า ก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาแนวทางการปรับขึ้นค่าโดยสารภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ประกอบการจะต้องยกระดับคุณภาพบริการ 

ทั้งนี้ ทีดีอาร์ไอสรุป 3 แนวทาง แนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ ปรับค่าโดยสารแบบคงค่าโดยสารเริ่มต้น 1 กม.แรก 35 บาท หลังจากนั้นพิจารณาว่า  ค่าโดยสารที่เกิดจากการใช้บริการตามระยะเวลาของเส้นทาง เช่น หากการวิ่งให้บริการผ่านพื้นที่รถติด มิเตอร์ก็จะคำนวณตามเวลา เพื่อคิดค่าโดยสาร  อย่างไรก็ตาม การคำนวณค่าโดยสารดังกล่าวจะเฉลี่ยประมาณไม่เกินร้อยละ 8 โดยการที่ทีดีอาร์ ศึกษาเสนอปรับราคาค่าโดยสารจะดำเนินการในกลุ่มแท็กซี่ที่มีการปรับปรุงคุณภาพตามกรอบแท็กซี่ โอเค ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 13,000 คัน จากแท็กซี่ในระบบกรุงเทพฯ กว่า 80,000 คัน 


สำหรับแนวทางการปรับขึ้นค่าโดยสารดังกล่าว กรมฯ จะเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาสัปดาห์นี้ หากกระทรวงเห็นชอบและรัฐมนตรีลงนาม เพื่อออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขั้นตอนดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน

ส่วนแท็กซี่ทั่วไปที่ยังไม่ปรับปรุงบริการเป็นแท็กซี่โอเคนั้น ยังไม่เข้าข่ายปรับขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากปัจจุบันยังพบว่ายังไม่ได้ปรับปรุงคุณภาพบริการให้เป็นที่ยอมรับ เมื่อพิจารณาตามสถิติการร้องเรียนแท็กซี่ผ่านสายด่วน 1584 ในปีงบประมาณ 2561 พบว่ามีถึง 48,223 เรื่อง สูงกว่าปีก่อนหน้าที่มีเรื่องร้องเรียน 43,804 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่ถูกร้องเรียน มากที่สุด คือ ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร แสดงกริยาไม่สุภาพ ขับรถประมาทหวาดเสียว ไม่ใช้มาตร (มิเตอร์) ค่าโดยสาร และไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแท็กซี่วิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ 80,647 คัน แบ่งเป็นแท็กซี่บุคคลธรรมดา 37,584 คัน และเป็นแท็กซี่นิติบุคคล 43,063 คัน ขณะที่ปัจจุบันแท็กซี่โอเคให้บริการแล้ว 12,986 คัน  (ตัวเลขวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา)  กรมฯ ยืนยันว่าหากแท็กซี่ที่ไม่เข้าระบบแท็กซี่โอเคมาแจ้งเข้าระบบด้วยการติดตั้งจีพีเอส ทำการตรวจสภาพ และเชื่อมโยงการบริการผ่านศูนย์ขนส่งก่อนประกาศปรับอัตราค่าโดยสารมีผลบังคับใช้ก็จะเข้าข่ายปรับราคาค่าโดยสารด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง