ผู้ว่าฯ กนอ.คนใหม่สานต่อเมกะโปรเจกต์

กรุงเทพฯ 12 ต.ค.- “สมจิณณ์ พิลึก” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กนอ.คนล่าสุด พร้อมประกาศสานต่อเมกะโปรเจกต์อีอีซีและเขตพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน เผย12 เดือนที่ผ่านมา ยอดลงทุนกว่า 28,000 ล้านบาท


นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) คนใหม่ เปิดตัวพร้อมประกาศเดินหน้าพัฒนาเมกะโปรเจกต์ เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี ได้แก่ ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์คใน จ.ระยอง โดยขณะนี้ในส่วนของท่าเรือมาบตาพุดผ่านการเห็นชอบหลักการของโครงการฯ จากคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และพร้อมจะประกาศเชิญชวนนักลงทุนประมาณเดือนตุลาคมนี้ และมีกำหนดได้เอกชนร่วมลงทุนประมาณเดือนมกราคม 2562 โดย กนอ.จะเร่งเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบให้ทันภายในปี 2568 

ส่วนนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์คนั้น  ได้ยื่นรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 คาดว่าใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 ปี หรือช่วงต้นปี 2563 ซึ่งแผนต่อไปหลังจากได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วทางโครงการจะดำเนินการจัดจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างและเริ่มก่อสร้างปลายปี 2563 คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี และเปิดดำเนินการทันปลายปี 2565  และยังเดินหน้าพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดน หรือ SEZ โดยพัฒนา 3 พื้นที่ต่อเนื่อง ได้แก่ สระแก้ว ตาก และสงขลา 


ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กนอ.คาดการณ์แนวโน้มการลงทุนใหม่ในช่วงปี 2562 ว่า จะมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญสนับสนุน อาทิ การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ มาตรการจูงใจให้เอกชนมาร่วมลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และจะให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนที่เข้ามาใช้พื้นที่นิคมฯ ทุกแห่ง 

ส่วนผลงานในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือในช่วงปีงบ 2561 (ต.ค.60 – ก.ย.61) กนอ.มียอดขายพื้นที่ / เช่า 1,377 ไร่ มีเงินลงทุนรวมกว่า 28,042 ล้านบาท สำหรับประเภทอุตสาหกรรม  5 อันดับแรกที่ลงทุนมากที่สุด ได้แก่  1.การผลิตอื่น ๆ  2.ผลิตโลหะขั้นมูลฐาน 3. เครื่องเรือนหรือเครื่องตกแต่งในอาคารจากไม้ แก้ว ยาง หรือโลหะอื่น ๆ 4.อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์  5. ยางและผลิตภัณฑ์

นางสาวสมจิณณ์ กล่าวถึงการพัฒนาระบบบริการ ว่า กนอ.ได้ยกระดับการให้บริการอนุมัติ-อนุญาตเป็นระบบอนุญาตด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร (e- Permission & Privilege)  บริการยื่นคำขอ บริการสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร การบรรจุ และการต่ออายุ โดยเปิด 2 กลุ่มบริการ  ได้แก่ e-License อนุมัติ-อนุญาต ด้านภาษีอากรและที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร บริการยื่นคำขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ผ่านระบบไร้เอกสาร (e-Paperless) และ e-Signature อนุมัติ-อนุญาต คนต่างด้าวที่เป็นช่างฝีมือเข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม สามารถพิมพ์หนังสืออนุญาตเองได้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง