กนอ.กำชับทุกนิคมฯ ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน – ประกาศจังหวัดป้องโควิด 19

กรุงเทพฯ 7 เม.ย. – กนอ.กำชับทุกนิคมฯ ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน – ประกาศจังหวัดป้องโควิด 19 พร้อมรับมือภาวะวิกฤติ เพื่อลดการแพร่ระบาดเร่งเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว


นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจนั้น ปัจจุบันยังไม่มีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบและยังมีการดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมทุกนิคมปฏิบัติตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และปฏิบัติตามประกาศการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ของแต่ละจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่ รวมทั้งให้มีการเว้นระยะห่าง (Social Distance) และเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานของพนักงาน ตลอดจนใช้หลักการทำงานจากบ้าน (Work from Home) บางหน่วยงานที่ไม่กระทบต่อภารกิจหลักหรือการให้บริการที่สำคัญ เพื่อลดความแออัดของการอยู่ร่วมกัน และลดความเสี่ยงของการได้รับเชื้อ รวมทั้ง กนอ.ได้จัดทำระบบอนุมัติอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์รองรับไว้แล้ว ทั้งนี้ การประเมินผลกระทบโควิด 19 จะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ขณะเดียวกันได้กำชับให้ทุกนิคมอุตสาหกรรมเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยจากเหตุฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ อุบัติภัย หรืออัคคีภัย ที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยให้ปรับการตรวจประเมินด้านความปลอดภัยเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และให้จัดทำรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน ส่งให้ผู้อํานวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรม พร้อมทั้งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยและมาตรการลดความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างละเอียดทุกขั้นตอน รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่ายในพื้นที่ให้ร่วมกันสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งเป็นไปตามมาตรการบริหารจัดการและส่งเสริมผู้ประกอบการในการลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ/อุบัติภัยภายในนิคมอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดความสูญเสียทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19


ทั้งนี้ กนอ.ได้สั่งการนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความปลอดภัยและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างเคร่งครัด และให้รายงานเข้ามายังผู้บริหารสายงานปฏิบัติการต่าง ๆ ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสามารถฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้

“กนอ.ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในนิคมฯ ปรับเปลี่ยนการทำงาน เพื่อให้รองรับกับสถานการณ์ปัจจุบันของโลกที่เปลี่ยนไป เพื่อร่วมฝ่าภาวะวิกฤตินี้โดยเร็ว” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

จับ “เจ๊เล็ก” พร้อมเลขาคนสนิท เอี่ยวแก๊งคอลฯ

ปฏิบัติการ “ปิดเมืองคอน สยบภัยออนไลน์” ตำรวจจับผู้ต้องหาได้จำนวนมาก ในจำนวนนี้มี “เจ๊เล็ก” อดีตรองนายกเทศมนตรี กับเลขาคนสนิท เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สั่งขัง “พิตบูล” 15 วัน หลังกัดหัวเด็ก 8 ขวบสาหัส

เหตุสุนัข “พิตบูล” บุกขย้ำศีรษะเด็ก 8 ขวบในบ้านพัก ล่าสุด เด็กอาการปลอดภัย แต่ต้องเย็บถึง 55 เข็ม ด้านสาธารณะสุขเทศบาลปากเกร็ด สั่งขังสุนัข 15 วัน ห่วงติดเชื้อพิษสุนัขบ้า พร้อมวางกรอบ ป้องกันเหตุซ้ำรอย

นายกฯ ตรวจด่านชายแดนบ้านคลองลึก ดูการตัดสัญญาณ

นายกฯ ตรวจด่านชายแดนบ้านคลองลึก รับฟังมาตรการคัดกรองคนผ่านชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมดูการตัดสัญญาณ-ลดสัญญาณอินเทอร์เน็ต สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กรมอุตุฯ ออกประกาศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนวันนี้

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง การเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ.2568 โดยคาดว่า อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 35-36 องศาเซลเซียส ซึ่งใกล้เคียงกับค่าปกติ แต่ร้อนน้อยกว่าปีที่ผ่านมา