ผลีผลามเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทุกพื้นที่ยังไม่ได้

ทำเนียบรัฐบาล 26 ก.ย. – “สมศักดิ์” เผยส่งทีมงานลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถามความเห็นความจำเป็นใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินดูแลสถานการณ์ ก่อนนำเข้าพิจารณาใช้ต่อหรือไม่ใน ครม. 17 ต.ค.นี้ รับถ้ายกเลิกหมด 22 อำเภอ ยังอันตราย


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่ออายุการประกาศใช้ออกไปเพียง 1 เดือน ว่า จะครบ 1 เดือนในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ฝ่ายเลขาฯ ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว โดยรับฟังข้อมูลจากกองทัพ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

“ ผมบอกให้รับฟังความเห็นผู้นำศาสนา โรงเรียน หรือการเมืองในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเท่าที่ทำได้ เพราะ 1 เดือนที่ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ  เป็นเวลาที่ค่อนข้างน้อย หลังจากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าสู่การประชุมครม. วันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติรูปแบบใหม่ ถ้าถามว่ายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งหมด 22 อำเภอได้หรือไม่ คงยังเพราะอันตรายเกินไปที่ตัดสินใจแบบผลีผลาม” นายสมศักดิ์ กล่าว


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ไปรับฟังในสัปดาห์แรก มีบางส่วนไม่เห็นด้วย บางส่วนก็อยากปรับให้ใช้แนวทางและมาตรการต่าง ๆ ให้เกิดความมั่นคงและปลอดภัย ซึ่งตนได้ชี้แจงในสภาฯ ให้รับทราบแล้ว คือ พ.ร.บ.ปราบปรามการทรมาน และการทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งจะทำให้การทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ประโยชน์ เพราะมีเรื่องของการบันทึกภาพและเสียงการจับกุม คุมขัง จนถึงขั้นส่งพนักงานสอบสวนหรือฝ่ายปกครอง จะทำให้เจ้าหน้าที่ต้องละเอียดรอบคอบ คิดว่าเขาคงไม่มีปัญหา แต่ประชาชนอาจยังมีความห่วงใย

เมื่อถามย้ำว่า คนที่ไม่เห็นด้วย เป็นระดับชาวบ้านหรือเจ้าหน้าที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่ทำอย่างไรให้เกิดความสบายใจ ซึ่งเราต้องรับฟังและหาความพอดี ส่วนจะปรับเปลี่ยนห้วงระยะเวลาที่ประกาศใช้เป็น 1 เดือน หรือ 2 เดือนนั้น การประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ  3 เดือนเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ที่ให้ขยายต่อครั้ง ซึ่งคงขยายได้จนสุดเวลา หากครบ 3 เดือนก็ขยายใหม่ เป็นไปตามระเบียบที่ให้อำนาจไว้

เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่รัฐต้องปรับตัวกับการใช้ พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องพูดคุยกัน และพูดถึงการใช้กฎหมายความมั่นคงในสถานการณ์ปกติ ซึ่งมี 5-6 ประเด็นหลัก เจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบทั้งหมด โดยมีกรอบระยะเวลาทำงาน 1 เดือน กลางเดือนต.ค.ต้องมาประชุมกัน เพื่อให้ทันนำเรื่องเข้าครม. 17 ต.ค.


ส่วนที่พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่าหากจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต้องมีเครื่องมืออื่นให้เจ้าหน้าที่ทำงาน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องเครื่องมือการทำงานต้องพูดคุยกัน ซึ่งทีมที่ลงไปสำรวจข้อมูลและพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 4 และตำรวจแล้วว่าต้องเพิ่มเติมหรือลดอะไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน