กาญจนบุรี 9 ต.ค.-เจ้าหน้าที่เข้าเก็บวัตถุพยานและดีเอ็นเอ ภายในรถออฟโรดของกลางทั้ง 6 คัน เพื่อดำเนินคดีในคดีล่าหมีขอต่อไป
เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุมวางแผนหาแนวทางเก็บหาวัตถุพยาน คราบเลือด และดีเอ็นเอ ภายในรถของกลางทั้ง 6 คัน โดยเฉพาะรถยนต์ทะเบียน 1 ฒง 3555 กรุงเทพมหาคนร ที่มีนายอนุสรณ์ เรือนงาม อาสารักษาดินแดนอำเภอด่านมะขามเตี้ย เป็นคนขับ และเป็นรถคันที่พบอาวุธปืน และเครื่องกระสุน รวมทั้งอุ้งเท้าหมีขอ หนักรวมประมาณ 9.2 กิโลกรัม
ส่วนความคืบหน้าคดีพันตำรวจเอกธานี สงวนจีน ผู้กำกับการตำรวจภูธรไทรโยค เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 11 คน เสร็จเรียบร้อยแล้ว พบว่า บางเรื่องผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่บางเรื่องยังคงให้การปฏิเสธ โดยช่วงบ่ายของวันนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังศาลจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว รวมทั้งประสานให้นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ในฐานะผู้เสียหายเข้าให้ปากคำ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเพิ่มเติมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานก่อนหน้านี้ นายพนัชกร นำเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค สัตวแพทย์ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อหาหลักฐานและวัตถุพยานเพิ่มเติม บริเวณพิกัดป่าเขาพลู ตำบลวังกระแจะ อำเภอไทรโยค ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค 1.2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นบริเวณจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา พบหลักฐานและวัตถุพยานเพิ่มเติมทั้งปลอกกระสุน 31 ปลอก ถูกโยนทิ้งข้างทาง ถุงพลาสติกขาวขุ่นมีกลิ่นคาวและคราบคล้ายคราบเลือด โยนทิ้งข้างทางฝั่งซ้าย บริเวณรถคันที่ 5-6 ห่างจากรถประมาณ 7 เมตร
นอกจากนี้ยังเข้าตรวจสอบ บริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ ป่าเขาพลู ตำบลวังกระแจะ ภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ตั้งแคปม์พักแรม พบชิ้นเนื้อและซากสัตว์ลักษณะคล้ายส่วนของกรามปากด้านล่างของหมีขอ ขนสัตว์ป่าสีดำ 3 จุด เศษกระดูกและเครื่องในสัตว์ป่า บริเวณครัวหลังแคมป์ เขียงประกอบอาหาร มีดพร้า หม้อใช้ประกอบอาหาร และน้ำผสมไขมัน รวมทั้งกระป๋องเบียร์ คราบและชิ้นส่วนไขมัน เจ้าหน้าที่จึงจัดเก็บส่งไปตรวจ DNA หาความเชื่อมโยงเกี่ยวกับคดี
ด้านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การทำคดี เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้อง .-สำนักข่าวไทย