กรุงเทพฯ 6 ต.ค.-ก.เกษตรฯเตรียมเสนอแผนการพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาให้ครม.เห็นชอบในอีก 4 เดือน กำกับข้อตกลงให้เป็นธรรมระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการ ยกตัวอย่างปลูกมันฝรั่งส่ง “เลย์” ยกระดับรายได้เกษตรกรมั่นคง-แน่นอน
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า เตรียมจัดทำแผนการพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาเสนอคณะรัฐมนตรีให้การเห็นชอบภายใน 4 เดือน อีกทั้งจะเร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่บุคลากรของกระทรวงเกษตรเพื่อจะได้สามารถแนะนำและให้ข้อมูลแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการรับทราบอย่างต่อเนื่อง และจะขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรจัดส่งร่างสัญญาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เก็บไว้ เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบ
สำหรับ พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้มา 1 ปีแล้วเป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการทำการเกษตรในระบบเกษตรพันธสัญญา โดยวางหลักเกณฑ์ และมาตรการในการกำกับดูแลการทำสัญญาให้เกิดความเป็นธรรม โดยกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรมีหน้าที่จัดทำเอกสารสำหรับการชี้ชวนและร่างสัญญาให้เกษตรกรทราบล่วงหน้าเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้าทำสัญญา
ขณะนี้มีผู้ประกอบการสนใจขึ้นทะเบียน 187 ราย มีเกษตรกรในระบบเกษตรพันธสัญญา กว่า 200,000 ราย ทั้งด้านพืช เช่น อ้อยโรงงาน เมล็ดพันธ์ข้าวโพด มันฝรั่ง พืชผัก ด้านปศุสัตว์เช่น ไก่เนื้อ ไก่ไข่ และด้านประมงเช่น ปลานิล ปลาทับทิม ตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรมได้แก่ ผู้ผลิตมันฝรั่งอบกรอบ “เลย์” บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินการภายใต้สัญญาข้อตกลงซื้อขายผลผลิตมันฝรั่งที่กำหนดราคารับซื้อที่แน่นอน ส่งเสริมเกษตรกรใน 6 จังหวัดภาคเหนือปลูกมันฝรั่ง 3,500 ราย รวมพื้นที่ 22,000 ไร่
นายบุญศรี ใจเป็ง ผู้นำกลุ่มเกษตรกรอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า เดิมรายได้ไม่มั่นคงราคารับซื้อของพ่อค้าคนกลางไม่แน่นอน แต่เมื่อเข้าสู่ระบบเกษตรพันธสัญญา (CONTRACT FARMING) สัญญาระบุชัดเจนถึงจำนวนที่ต้องผลิตและคุณภาพที่รับซื้อ จึงสามารถขายผลผลิตได้ตามราคาที่ตกลงกัน ถือว่าเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบเหมือนในอดีต
ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ตามที่ กฏหมายที่มีความจำเป็นต่อการปฏิบัติงานเรียบร้อยแล้วจำนวน 4 ฉบับ เช่น หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งประกอบธุรกิจ และอยู่ในระหว่างการพิจารณา อีก 2 ฉบับ หากมีความจำเป็นเพิ่มเติมสามารถพิจารณาออกประกาศได้ตามสภาวะและสถานการณ์ในอนาคต อีกทั้งได้รับเรื่องร้องเรียนและให้กระทรวงเกษตรฯ ไกล่เกลี่ยและยุติข้อพิพาท จำนวน 2 เรื่องซึ่งสามารถประนีประนอมยอมความกันได้หมด
คณะกรรมการฯ ยังมีมติมอบหมายให้ศึกษาและจัดทำสัญญาแนะนำเพื่อเผยแพร่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ และจัดทำสัญญาแนะนำเพิ่มเติมอีก เพื่อให้มีรูปแบบสัญญาที่หลากหลายและครอบคลุมการผลิตผลิตผลหรือบริการทางการเกษตรในแต่ละชนิด
“กฏหมายเกษตรพันธสัญญา ออกมาเพื่อใช้เพื่อสร้างความเป็นธรรมระหว่างเกษตรกรและผู้ประกอบการ เช่น มาตรา 20 ได้มีข้อกำหนดในเชิงควบคุมการทำสัญญา ต้องระบุราคาและวิธีการคำนวณวัตถุดิบและผลผลิต ใช้ราคาในวันเวลาใด รวมถึงกำหนดวันและสถานที่ส่งมอบ เป็นต้น” รมว.เกษตรกล่าว
สำหรับผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรหรือเกษตรกรรายใดที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตร เกษตรตำบล เกษตรอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ สหกรณ์อำเภอในพื้นที่ รวมทั้งสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทรศัพท์ 02 281 5955 ต่อ 354 สายด่วนโทร 1170-สำนักข่าวไทย