สธ.5 ต.ค.-เนื่องในวันไข่โลกปีนี้ตรงกับ12 ต.ค.กรมอนามัยแนะกินไข่แหล่งโปรตีนคุณภาพดี ราคาถูก พร้อมเปิดเมนูไข่สำหรับเด็กวัยเรียน ‘ไข่ตุ๋น-ไข่เจียว-ไข่พะโล้-มะระผัดไข่-ไข่ลูกเขย’ ส่งเสริมให้เด็กกินไข่ได้ทุกวัน
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวว่า คณะกรรมาธิการไข่ไก่ระหว่างประเทศ (The International Egg Commission หรือ IEC) กำหนดให้วันศุกร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันไข่โลก ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 12 ตุลาคม 2561เพื่อเป็นการรณรงค์และส่งเสริมการบริโภคไข่ ซึ่งไข่เป็นอาหารโปรตีนที่มีคุณภาพดี ราคาถูก หาได้ง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับทุกกลุ่มวัย มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน เป็นแหล่งของแร่ธาตุที่สำคัญมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและเป็นแหล่งวิตามินที่สำคัญ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 บี 2 บี 6 โฟเลต วิตามินดี วิตามินอี เลซิธิน ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งการบริโภคไข่อย่างฉลาดจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลายเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
พญ.อัมพร กล่าวต่อว่า ปริมาณไข่ที่แนะนำให้บริโภคนั้น เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ให้เริ่มที่ไข่แดงต้มสุกบด วันละครึ่ง ถึง 1 ฟอง เด็กอายุ 7 เดือนขึ้นไป กินไข่ต้มสุกวันละครึ่งถึง 1 ฟอง และเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปถึงวัยสูงอายุกินไข่ต้มสุกได้วันละฟอง
ส่วนผู้ป่วยเบาหวานไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงกินไข่ได้ 3 ฟองต่อสัปดาห์ หรือบริโภคเฉพาะไข่ขาวได้ทุกวัน ตามคำแนะนำของแพทย์ที่สำคัญต้องดูแลการบริโภคอาหารอย่างอื่นร่วมด้วย โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูงและกินอาหารที่หลากหลายในแต่ละมื้อ โดยให้มีอาหารประเภทข้าวแป้ง ธัญพืช เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ครบทั้ง 5 หมู่ในสัดส่วนปริมาณที่เหมาะสม เพื่อคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารที่ครบถ้วน โดยเฉพาะผักและผลไม้สดจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันส่วนเกินให้เป็นปกติ
ขณะเดียวกันหากพ่อแม่ต้องการให้เด็กได้กินไข่ทุกวันและไม่เบื่อ ควรใช้วิธีประกอบอาหารที่มีการใส่ผักลงไปในไข่เพื่อเป็นการจูงใจให้เด็กกินผัก เช่น ไข่เจียวหรือไข่ตุ๋นใส่ผักสับละเอียด เป็นการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายแก่เด็กอีกด้วย
อย่างไรก็ตามควรเลี่ยงกินไข่ดิบเพราะถ้าไข่ไม่สุกอาจปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์จะขัดขวางการดูดซึมไบโอตินทำให้ย่อยยากจึงได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่ ควรบริโภคในรูปแบบไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ไข่พะโล้ จะมีประมาณไขมันน้อยกว่าไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ส่วนการปรุงอาหารควรใช้น้ำมันไม่อิ่มตัว อาจกินเป็นสลัดไข่ ยำไข่ต้มเพราะจะทำให้ได้สารจากไข่ และได้ไฟเบอร์และวิตามินซีจากผักและผลไม้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงคือขนมปังไข่ดาวใส่เบคอนหรือไส้กรอก เพราะจะได้รับปริมาณไขมันสูงมากจากเบคอนน้ำมันที่ใช้ทอด และเนยที่ทาขนมปัง
สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องฟันที่ไม่สามารถทานอาหารโปรตีนอื่นได้ แนะนำให้กินไข่เป็นแหล่งของโปรตีนแทนเนื้อสัตว์ และผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูงในบางมื้ออาจหลีกเลี่ยงการกินไข่แดง
นอกจากนี้ กรมอนามัย ได้จัดทำเมนูไข่สำหรับเด็กวัยเรียน เช่น ไข่ตุ๋น ไข่เจียว ไข่พะโล้ มะระผัดไข่ ไข่ลูกเขย ยำไข่ต้ม ไข่ยัดไส้ ยำไข่ดาว บัวลอยเผือกไข่หวาน เพื่อส่งเสริมให้เด็กกินไข่ได้ทุกวัน .-สำนักข่าวไทย