นนทบุรี 14 ก.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์สั่งพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่เกิดน้ำท่วมออกตรวจสินค้าอย่างใกล้ชิด ป้องกันการขาดแคลน กักตุน และฉวยโอกาส เผยช่วงน้ำท่วมให้ประสานผู้ผลิตจัดส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายให้เพียงพอ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ที่ มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ออกตรวจสอบสถานการณ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด โดยติดตามสถานการณ์สินค้าจำเป็นต่อการครองชีพในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ดูแลไม่ให้เกิดการกักตุน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าทั้งในช่วงที่เกิดอุทกภัยและหลังเกิดอุทกภัย
นางอภิรดี กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดน้ำท่วมขอให้ดำเนินการประสานผู้ผลิตจัดหาสินค้าที่จำเป็นเข้าไปในพื้นที่อย่าให้มีปัญหาขาดแคลนและช่วยดูแลการกระจายสินค้าอย่าให้มีการตกค้าง เพื่อให้มีการจัดส่งไปยังร้านค้าปลีกในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าอาหารที่จำเป็นเพื่อการยังชีพ ได้แก่ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำดื่มบรรจุขวด เป็นต้น กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ ได้แก่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระดาษชำระ ผ้าอนามัย เป็นต้น และกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ ปูนซีเมนต์ ทราย กระสอบทราย อิฐบล็อก เหล็ก ไม้ และแผ่นสังกะสี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้จัดรถจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ (Mobile Unit) โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่มบรรจุขวด นมสดพร้อมดื่ม และไข่ไก่ เป็นต้น และจัดจุดจำหน่ายสินค้าในพื้นที่เกิดอุทกภัยให้มากที่สุด รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัย
ส่วนการดูแลประชาชนหลังจากภาวะน้ำท่วมแล้ว กระทรวงฯ ได้มีการประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นในการฟื้นฟูหลังเกิดอุทกภัย เช่น สินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม เสื้อผ้า และยารักษาโรค เป็นต้น อีกทั้งประสานขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจ เอกชนและสถาบันการศึกษา ให้บริการตรวจเช็กและซ่อมแซมที่พักอาศัย เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ ในราคาถูกพิเศษ เป็นต้น ทั้งนี้ ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย มีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 30 จังหวัด และสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 28 จังหวัด คงมีจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 2 จังหวัด คือ เลยและชัยนาท.-สำนักข่าวไทย