นนทบุรี 14 ก.ย.- ตร.นนทบุรี-สธ. จับคลินิกเสริมความงามเถื่อนย่านปากเกร็ด ผิด 4 ข้อหา เร่งสืบสวนขยายผลหาตัวเจ้าของคลินิกมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 14 ก.ย.59 พ.ต.อ ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.มงคล อ่อนแก้ว รองผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี นำกำลังจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข นำโดย นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เข้าบุกจับคลินิกเสริมความงามเถื่อน ชื่อ พีพี แคร์ คลินิก เลขที่ 200/1 หมู่ 5 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารชั้นเดียว 2 คูหา เปิดเป็นสถานเสริมความงาม ด้านในแบ่งเป็น 4 ห้อง เปิดใช้งาน 2 ห้อง อีก 2 ห้อง อยู่ระหว่างตกแต่ง ขณะเข้าบุกจับพบเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก 2 คน และแพทย์หญิง 1 คน มีคนไข้เข้ารับบริการ 1 คน ตรวจสอบด้านในพบเครื่องมือแพทย์สำหรับเสริมความงาม เช่น เครื่องสลายไขมัน เครื่องกรอหน้า เครื่องร้อยไหม อุปกรณ์การแพทย์ และยาจำนวนมาก จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มีการร้องเรียนไปที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และได้มีการตรวจสอบไปที่กระทรวงสาธารณสุขพบว่าคลินิกเสริมความงามนี้ไม่ได้มีการขออนุญาตไว้ จากนั้นทางกระทรวงฯ มอบหมายให้ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีเข้าทำการตรวจสอบสถานที่นี้ว่ามีความผิดอย่างไรบ้าง
“ทางเราได้ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้ามาทำการรักษา โดยการยิงเลเซอร์และทำการร้อยไหม มีการทำบันทึกประวัติ และพบว่าคลินิกเสริมความงามนี้มีการกระทำความผิดจริงตามที่ได้รับร้องเรียน โดยคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตและไม่มีการขอใบอนุญาตใดเลย และมียาส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” นายชาตรี กล่าว
สำหรับข้อหาในการกระทำผิดมีทั้งหมด 4 ข้อ 1.ประกอบกิจการและสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาต 3.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 4.จำหน่ายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของกิจการต้องมีการตรวจสอบ ส่วนแพทย์ที่อยู่ในคลีนิกขณะเข้าจับกุมพบว่ามีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนบุคคลทั้ง 3 คน ต้องนำตัวไปตรวจสอบหลักฐานว่ามีความผิดอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเชิญตัวบุคคลทั้ง 3 คน ที่ปฎิบัติหน้าที่ในคลินิก ส่งพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งเก็บรวบรวมหลักฐานและตรวจยึดยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไว้ตรวจสอบทั้งหมด จากนั้นจะทำการสืบสวนขยายผลหาตัวเจ้าของคลินิกเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย