ตร.ยันดำเนินคดีหนุ่มลาวซิ่งเบนซ์แหกด่านประจวบฯ



ประจวบคีรีขันธ์ 14 ก.ย.- ตำรวจยันดำเนินคดีหนุ่มลาวอย่างเต็มที่ ไม่มีการปกป้อง หลังก่อเหตุซิ่งเบนซ์แหกด่านตำรวจ ประจวบฯ ค้นภายในรถพบกัญชา 2.07 กรัม


14-9-2559 23-47-58 14-9-2559 23-49-09

 

ความคืบหน้ากรณีนายสุริยา หาบุญ หนุ่มลาวขับรถเบนซ์หรูแหกด่านตรวจตำรวจทางหลวง บนถนนเพชรเกษม ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มุ่งหน้าลงใต้ อ.ทับสะแก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสกัดจับได้ ที่ อ.ทับสะแก และปฏิเสธที่จะเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น จนต้องนำรถยก ยกเข้าไปที่ สภ.ทับสะแก โดยชายดังกล่าวได้โทรหาญาติในประเทศลาว ขึ้นเครื่องจากเวียงจันทน์ เดินทางมาที่สนามบินดอนเมืองโดยมีญาติในฝังไทยไปรับ และเดินทางไปที่ สภ.ทับสะแก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เมื่อพบญาติ ชายคนดังกล่าว จึงยอมเปิดประตูออกมาจากรถให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นภายในรถ พบกัญชาแห้ง


ขณะที่โลกโซเชียล แชร์ในทำนองว่าปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกมาปกป้องหนุ่มลาวคนดังกล่าว ซึ่ง นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ชี้แจงว่า หลังทราบข่าวกรณีดังกล่าวตนเองได้เดินทางไปเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเข้าไปเจรจา ส่วนโลกโซเชียลที่แชร์กันไปโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ เพราะในขณะเกิดเหตุการณ์นี้พบว่ามีไทยมุงเป็นจำนวนมาก จึงพยายามพูดเพื่อให้สถานการณ์ไทยมุงเบาลง เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการสอบสวนญาติของฝ่ายผู้ต้องหา ซึ่งเป็นชาวลาว

ด้าน พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.ทับสะแก กล่าวว่า จากการตรวจค้นได้พบกัญชาแห้ง 2.07 กรัม บรรจุถุงพลาสติกซุกซ่อนอยู่ในกระบอกน้ำ ในรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และทำการจับกุมตัว นายสุริยา ดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานที่สั่งการตามหน้าที่แล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันควร และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ในชั้นสอบสวน นายสุริยาให้การรับสารภาพ และได้ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่พบว่าขาดต่อ จึงได้เปรียบเทียบปรับ และความคุมตัวไปนายสุริยา ไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดประจวบฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นครั้งที่ 1 มีกำหนด 12 วัน ซึ่งศาลอนุญาตตามคำร้อง และขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ตามนายสุริยาได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาล และได้รับการประกันตัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง