ร้อง กกต.เชิญ “นายกฯ-โฆษกรัฐบาล” แจงข่าวชบวนการทำบัตรเสีย

กกต. 21 ก.ย.- “ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต.เชิญ “พล.อ.ประยุทธ-พล.ต.สรรเสริญ”  แจงข่าวขบวนการชวนทำบัตรเสีย-โหวตโน   หากปูดข่าวเท็จ นายกฯ ต้องรับผิดชอบทางการเมือง   พร้อมขอให้ตรวจสอบรถเชิญชวนทำนโยบายพรรคของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” 


นายศรีสุวรรณ จรรยา อุปนายกและเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)    ผ่าน น.ส.จินตนา ศรีนุกูล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ รักษาการ ผอ. สำนักกิจการการเลือกตั้ง    เพื่อขอให้ กกต.สืบสวนและไต่สวนกรณีที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ออกมาแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  เมื่อ 18 กันยายน ที่ผ่านมา  ว่า ก่อนการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.  กล่าวว่า มีข่าวในลักษณะทำนองเชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้งในรูปแบบแปลกๆ เช่น ไปทำให้บัตรเสีย โดยวิธีที่แนบเนียนให้มากที่สุด  หรือแม้แต่การกาบัตรในสิ่งที่ไม่เลือกใครเลย  

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเห็นว่า  การเผยแพร่ข่าวดังกล่าว  เป็นการสร้างความสับสนให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดีต่อกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย   หากปล่อยเลยตามเลยไป ก็อาจจะเป็นช่องทางที่ทำให้มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และ รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 ได้    เพื่อความกระจ่างและระงับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น   กกต.จะต้องเชิญ พล.อ.ประยุทธ  และ พล.ต.สรรเสริญ มาชี้แจง   โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 วรรคสอง ประกอบมาตรา 41 แห่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง   ที่บัญญัติให้ กกต. มีอำนาจในการควบคุม กํากับ ดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย  


“หากการสืบสวนไม่ปรากฏข้อมูล หรือหลักฐานอันเชื่อได้ว่า  มีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง  นายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง   เพราะถือได้ว่าเป็นการเต้าข่าว เพื่อสร้างความเสียหายต่อกลไกการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นตามโรดแมปของ คสช.   กกต.จะต้องเอาผิดทั้ง 2 คน    แต่หาก กกต. ไม่เรียกหรือดำเนินการตามข้อเรียกร้องนี้  กกต.ก็จะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.อ.มาตรา 157  ประกอบมาตรา 69  แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2560 ทันที” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ ยังขอให้ กกต.ตรวจสอบ  กรณีที่มีขบวนรถแห่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมการจัดทำนโยบายพรรค   ที่ จ.พิษณุโลก  โดยมีชื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในแผ่นป้ายดังกล่าว เข้าข่ายการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560  และคำสั่งที่ 13/2561 หรือไม่ด้วย เพราะแม้จะมีคำสั่งคลายล็อคให้พรรคการเมืองดำเนินการหาสมาชิกพรรคได้ แต่ไมได้อนุญาตให้มีการหาเสียง   ซึ่งการปิดป้ายและรถตระเวนตามข่าว   ตนเห็นว่าเป็นการหาเสียงทางการเมืองน่าจะขัดคำสั่ง คสช. ซึ่งกรณีดังกล่าวอยู่ในอำนาจที่ กกต.จะสามารถสืบสวนสอบสวนได้   .- สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง