ทำเนียบฯ 4 ก.ย.- นายกฯ ปัดตอบอนาคตทางการเมือง เผยหากตัดสินใจอย่างไร เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน ย้ำหากอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มอบฝ่ายกฎหมาย คสช. ติดตามเรื่องเก็บบัตรประชาชนก่อนเลือกตั้งในจ.นครราชสีมา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการตัดสินใจอนาคตทางการเมือง ที่เคยระบุจะเปิดเผยในเดือนกันยายน ว่า เมื่อ ร่างพ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ โปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว และเมื่อมีคำสั่ง คสช.ปลดล็อกการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง จากนั้นจะเป็นขั้นตอนเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ จะต้องได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ซึ่งสถานการณ์ในช่วงดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจของตน ว่าจำเป็นจะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหากจะต้องทำหน้าที่ จะทำได้อย่างไร ดังนั้นตนจะพิจารณาและตัดสินใจในช่วงเวลาดังกล่าว คงตอบได้เพียงเท่านี้ แต่ยืนยันว่าจะเป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนนำประเทศไปสู่การปฏิรูป ที่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพราะฉะนั้นขอสื่อมวลชนอย่าถามเรื่องนี้บ่อยเกินไป เพราะขั้นตอนต่างๆ ยังไปไม่ถึงไหน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเคยตั้งข้อสังเกตว่า การบริหารราชการแผ่นดิน เป็นเรื่องของนักการเมืองเพียงกลุ่มเดียวหรือไม่ ข้าราชการ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่เกษียณอายุราชการ ก็มีขีดความสามารถที่จะเข้ามาทำงานการเมืองได้ตามกฎหมาย แต่ในส่วนตัวถ้าต้องทำ จะไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องการทำไพรมารีโหวตในการเลือกตั้ง ว่า จะแก้ไขปัญหาโดยใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ซึ่งขณะนี้มีบางพรรคที่มีปัญหา จึงขออย่ามาขัดแย้งกัน เพราะระยะแรก คสช.ต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกำหนดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่น ๆ จึงจะต้องมีมาตรการดูแลเรื่องเหล่านี้ โดยจะหาวิธีการให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ระหว่างที่เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการหารือ จะต้องมองเรื่องความพร้อมของพรรคการเมือง รวมไปถึงความพร้อมของสมาชิกพรรค ว่าระยะแรกควรจะเป็นอย่างไร เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปฏิรูปการเมือง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของการเมือง ก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะนี้ตนต้องให้ความสำคัญกับการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่า เพราะเรื่องของการเมืองนั้น รัฐบาลและ คสช.ก็พยายามที่จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ให้ได้ มีหลายเรื่องที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงต้องรับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วน เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง จึงขอให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและอย่าสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เพราะมีหลายอย่างที่จะต้องแก้ปัญหาให้ได้
ส่วนกรณี นายสุพร อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ระบุพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีบางพรรคการเมืองเก็บบัตรประชาชนเพื่อนำไปสมัครสมาชิกพรรคการเมือง โดยอ้างเตรียมความพร้อมก่อนคลายล็อกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นสิ่งที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องไปพิจารณา ในส่วนของ คสช.ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปติดตาม ตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย