ศูนย์ราชการฯ 4 ก.ย. – วงเสวนาสถาบันพระปกเกล้า ประชาธิปัตย์ ย้ำอยากเห็นปลดล็อกการเมือง เพื่อไทยตั้งธง โละยุทธศาสตร์ชาติ ภูมิใจไทยมั่นใจไม่ทำผิดซื้อเสียง อนาคตใหม่ ต้านรัฐประหาร พรรคประชาชนปฏิรูป หนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ยันทำไพรมารีโหวตแม้จะมีม.44 มาแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการฯ สถาบันพระปกเกล้าจัดเวทีเสวนา เรื่องพรรคการเมืองไทยบนเส้นทางแห่งการปฏิรูป โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และนายประสาร มฤคพิทักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงหัวข้อแนวทางส่งเสริมประชาธิปไตยในพรรค สิ่งที่แต่ละพรรคตั้งเป้าหมาย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเห็นพรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ การเลือกตั้งเป็นธรรม ขจัดปัญหาซื้อเสียง เพราะกระแสข่าวซื้อเสียงวันนี้ หากปล่อยไปจะเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรอุบาทว์ อยากให้ประชาชนกำหนดอนาคตของประเทศได้จริง และจำเป็นต้องทบทวนกติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทั้งนี้ต้องเก็บเกี่ยวบทเรียนในอดีตไปปรับปรุงด้วย และต้องไม่มีปัญหาทุจริตคอรัปชั่นเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ทำลายประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดว่านโยบายแก้ปัญหาไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบ ลดความเหลื่อมล้ำ แก้กฎกติกา ดำเนินนโยบายตามเจตนารมย์ประชาธิปไตย และรักษาประชาธิปไตยโดยการเคารพเสียงข้างน้อย รับการตรวจสอบ ไม่แสวงหาประโยชน์
นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาไม่ปรากฏเรื่องปฏิรูปที่ได้มีการบอกจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่มีแผนปฏิรูป 6 ด้าน ซึ่งไม่ทำให้คนรู้สึกว่าคือการปฏิรูป แต่เป็นเหมือนสภาพบังคับทางกฎหมาย จะรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ชาติ และแก้ระบบการเมืองประเทศ และต้องแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย โดยต้องยกเลิกระบบที่จะมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอก และหากมีการเลือกนายกฯคนนอก ก็จะไม่ขอร่วมรัฐบาล ไม่ว่าพรรคการเมืองจะลุแก่อำนาจอย่างไรก็ตาม กองทัพก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะยึดอำนาจ
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น และหวังว่าจะมีการเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 และจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ส่วนที่มีข่าวกลุ่มสามมิตรไปฟ้องพรรคภูมิใจไทยทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้น พรรคมั่นใจไม่ได้ทำผิด
“กรณีที่กลุ่มสามมิตรฟ้องภูมิใจไทยให้ยุบพรรค ผมนั่งคิดว่ากฎหมายลูกส.ส.ยังไม่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นจึงยังหาสมาชิกไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัด การบอกว่าเราทำผิดกฎหมายไม่ใช่แล้ว เรายึดมั่นประชาธิปไตย เคารพกติกา ไม่ว่าผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร ยินดีรับฟังเสียงประชาชน” นายสรอรรถ กล่าว
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า พรรคได้ออกแบบเพื่อให้เป็นไปตามอุดมการณ์พรรค ยืนยันจะไม่ซื้อเสียง ไม่ซื้อตัวส.ส. เพราะเชื่อว่าวิธีเปลี่ยนประเทศไทยให้กลับมาสู่ประชาธิปไตย คือเรื่องการชนะความคิด โดยจะชี้แจงรายละเอียดการใช้จ่ายเงินของพรรคทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งจะถือเป็นรูปแบบใหม่ นอกจากไพรมารีโหวต คัดเลือกผู้สมัคร พรรคยังมีแนวคิดทำไพรมารีโหวตนโยบายพรรคด้วย และถ้ามีโอกาสร่วมรัฐบาลจะต่อรองขอกระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ
นายธนาธร กล่าวว่า ต้องกระจายอำนาจให้ประชาชนต่างจังหวัด เปิดโอกาสให้เกิดความเท่าเทียม ถ้าไม่แก้ปัญหาทางการเมือง ปัญหาอื่นของประเทศไทยจะไม่สามารถแก้ไขได้ พรรคเสนอให้หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. ยกเลิกรัฐธรรมนูญปัจจุบันทั้งฉบับ ที่มีข้อจำกัด และไม่ให้มีการรัฐประหารอีกซึ่งเป็นเป้าหมายที่อยากทำให้ได้ก่อนตาย
นายไพบูลย์ นิติตะวัน กล่าวว่า สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และหากไม่ต้องการให้มีการทำรัฐประหารอีก พรรคการเมืองต้องไม่ลุแก่อำนาจ
“ผมไม่เลือกนายกรัฐมนตรีนอกรัฐธรรมนูญ แต่จะเลือกนายกรัฐมนตรี ที่รัฐธรรมนูญกำหนด และไม่เลือกนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่างประเทศ หรือส่งนอมินีมาเป็นนายกรัฐมนตรี” นายไพบูลย์ กล่าว
นายประสาร มฤคพิทักษ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองที่ดีต้องไม่เป็นพรรคการเมืองภายใต้บริษัท ส่วนกรณีที่ คสช.เตรียมออกมาตรา 44 เพื่อแก้ไขระบบการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง จากระบบไพรมารีโหวต เป็นระบบกรรมการสรรหานั้น ก็เชื่อว่าอำนาจจะยังอยู่ที่กรรมการสรรหา 11 คนไม่ใช่สมาชิกพรรค ซึ่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยังคงยืนยันจะใช้ระบบไพรมารีโหวตแม้จะมีการออกมาตรา 44 มาแก้ไข.-สำนักข่าวไทย