นักวิชาการแนะปฏิรูปกองทุนชราภาพ

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – นักวิชาการแนะปฏิรูป “กองทุนชราภาพ” ขยายสิทธิครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่ม เพิ่มเงินสมทบ เพิ่มอายุผู้รับบำนาญ หวั่นปัญหาจ่ายเงินบำนาญ 30 ปีข้างหน้า


รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และที่ปรึกษาการเงินการคลัง คณะกรรมการประกันสังคม กล่าวว่า กองทุนประกันสังคม ถือเป็นเสาหลักของระบบสวัสดิการสังคมของประเทศ จัดตั้งมากว่า 34 ปีแล้ว คุ้มครองดูแลผู้ใช้แรงงาน 13.7 ล้านคน (แบ่งเป็นตามมาตรา 33 ประมาณ 11.9 ล้านคน ตามมาตรา 39 ประมาณ 1.6 ล้านคน ตามมาตรา 40 ประมาณ 0.9 ล้านคน)

ปัจจุบันเริ่มมีความเสี่ยงทางการเงิน อาจไม่สามารถจ่ายบำนาญได้ในอนาคต และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ เพราะประชากรในวัยทำงานจ่ายสมทบให้กองทุนลดลง ขณะที่คนวัยชราได้รับสิทธิบำนาญเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงมีเงินไหลออกมากกว่าเงินไหลเข้าจากเงินสมทบ โดยบำนาญ 7,500 บาทต่อเดือน อาจทำให้กองทุนชราภาพไม่มีเงินจ่ายบำนาญให้กับผู้ประกันตน ในอีก 30 ปีข้างหน้า หากมีการปฏิรูปกองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันสร้างความยั่งยืน


จากตัวอย่างประเทศยุโรปเหนือ มีสัดส่วนภาษีต่อจีดีพีร้อยละ 35-48 ขณะที่ประเทศไทยมีสัดส่วนภาษีต่อจีดีพีร้อยละ 14.6 แนวโน้มรายจ่ายสวัสดิการสังคม จะเป็นภาระทางงบประมาณเพิ่มขึ้น จากสังคมผู้สูงวัย จากปัจจุบันร้อยละ 20-23 ไทยจึงต้องปฏิรูปรายได้ภาครัฐ ปฏิรูประบบภาษี ขณะนี้มีคนวัยทำงานประมาณร้อยละ 59 หรือประมาณ 23.5 ล้านคน ที่อยู่นอกระบบหลักประกันทางสังคมของรัฐ คนเหล่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย แรงงานอิสระ แรงงานในภาคเกษตรกรรม แรงงานทำงานตามบ้าน อาจมีปัญหาในอนาคต

ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ผู้ประกันตนที่มีรายได้สูงกว่าเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณสิทธิประโยชน์และเงินสมทบ ควรศึกษาวิจัยว่าจะให้มีจ่ายเงินสมทบในอัตราก้าวหน้าหรือไม่ ควรศึกษาการเพิ่มเพดานค่าจ้างและเงินสมทบ ทยอยเพิ่มอายุผู้มีสิทธิรับเงินบำนาญ อาจทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป การปรับเพดานเงินสมทบต้องมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเงินบำนาญ และควรปรับแนวทางการบริหารการลงทุนเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนของเงินกองทุนให้ขึ้นมาอยู่ในระดับเฉลี่ยร้อยละ 5 แต่ต้องระมัดระวังในเรื่องการบริหารความเสี่ยง หากมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด หรือเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ต้องมีกลไกกำกับดูแลอย่างชัดเจน.-515-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”